ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ปลุกพลังผู้ให้ทั่วประเทศ ชวนบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยกับโครงการ “ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ” ตลอดปี ๒๕๖๗ โดยเพิ่มจำนวนครั้งการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก ๓ เดือน หรือปีละ ๔ ครั้ง เพื่อให้มีโลหิตสำรองเพียงพอสม่ำเสมอสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ตลอดปี ๒๕๖๗ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้จัดโครงการ “ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ Give Blood ,Give lives, Give forever” เป็นโครงการหลักประจำปี ๒๕๖๗ เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานด้านการบริจาคโลหิตให้แก่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ และเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆ ในการรณรงค์ส่งเสริมให้ผู้บริจาคโลหิตมีการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก ๓ เดือน หรือปีละ ๔ ครั้ง เพิ่มมากขึ้น หรืออย่างน้อยบริจาคโลหิตเพิ่มปีละ ๒-๓ ครั้ง รวมถึงการเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ให้มีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการบริจาคโลหิตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนจากสถิติความถี่การบริจาคโลหิตทั่วประเทศ ปี พ.ศ.๒๕๖๖ จากจำนวนผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด ๑,๖๐๖,๗๔๓ คน พบว่ามีผู้บริจาคโลหิตปีละ ๑ ครั้ง มีปริมาณมากถึง ๑,๐๕๗,๘๙๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๕.๘๔ ในขณะที่ ผู้บริจาคโลหิตปีละ ๔ ครั้ง มีจำนวนเพียง ๗๓,๗๗๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๔.๕๙ และยังมีผู้บริจาคโลหิตปีละ ๒ ครั้ง จำนวน ๓๑๓,๐๒๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๔๘ บริจาคโลหิตปีละ ๓ ครั้ง จำนวน ๑๕๖,๐๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๙.๗๑ ส่วนผู้บริจาคโลหิตมากกว่า ๔ ครั้ง (รวมกับบริจาคส่วนประกอบโลหิตอื่นๆ) จำนวน ๕,๙๙๘ คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๗ หากมีผู้บริจาคโลหิตบริจาคทุก ๓ เดือน หรือปีละ ๔ ครั้งเพิ่มมากขึ้น จะทำให้มีโลหิตที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอตลอดปีทั้งนี้ โลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่ยังไม่มีนวัตกรรมใดๆ มาทดแทนได้ จึงจำเป็นต้องมีการรับบริจาคโลหิตจากเพื่อนมนุษย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งโลหิตสำหรับใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยโลหิตที่ได้รับบริจาคร้อยละ ๒๓ นำไปใช้รักษากลุ่มผู้ป่วยโรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย เกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น ในรายที่เป็นชนิดรุนแรงต้องได้รับโลหิตในการรักษาเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ ๑-๒ ยูนิต หากไม่ได้รับโลหิตผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน อีกร้อยละ ๗๗ นำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่สูญเสียโลหิตเฉียบพลันจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด ตกเลือดหลังคลอดบุตร เลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นต้น ต้องมีโลหิตสำรองไว้ระหว่างการผ่าตัด ๒-๓ ยูนิต ในกรณีที่มีอาการรุนแรง ๕-๑๐ ยูนิต ถ้าโลหิตไม่เพียงพอต้องเลื่อนการผ่าตัด อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้ จึงต้องมีการรณรงค์ให้ผู้บริจาคโลหิต เพิ่มความถี่ในการบริจาคโลหิต จากปีละ ๑ ครั้ง เป็นปีละ ๒ ครั้ง จากปีละ ๒ ครั้ง เพิ่มเป็นปีละ ๓ ครั้ง จากปีละ ๓ ครั้ง เพิ่มเป็น ๔ ครั้งต่อปี ก็จะทำให้โลหิตมีปริมาณเพียงพอสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยได้ สามารถบริจาคโลหิตทั่วประเทศ ได้ที่• ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์• หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) ได้แก่ สถานีกาชาด ๑๑ วิเศษนิยม (บางแค) เดอะมอลล์ สาขาบางแค สาขาบางกะปิ สาขางามวงศ์วาน สาขาท่าพระ ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม และบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)• ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ๑๒ แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต• โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร. ๐ ๒๒๕๖ ๔๓๐๐, ๐ ๒๒๖๓ ๙๖๐๐-๙๙ ต่อ ๑๑๐๑, ๑๗๖๐, ๑๗๖๑
ปลุกพลังผู้ให้ทั่วประเทศ ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำทุก ๓ เดือน ตลอดปี ๒๕๖๗
Related posts