“เสี่ยเฮ้ง” ยื่นศาลทุจริตฯฟ้อง ๓ บิ๊กดีเอสไอ ตั้งแต่อดีตอธิบดี รรท.อธิบดีคนปัจจุบัน และ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ความผิดตามมาตรา ๑๕๗ และ ๒๐๐ วรรคสอง หลังดีเอสไอเปิดแถลงกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี ๒ คน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ๒ คน ข้อหารีดหัวคิวแรงงานไปทำงานประเทศฟินแลนด์ ๓๖ ล้านบาท โวยส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปตั้งแต่ปลายเดือน ตุลาคมปีที่แล้ว แต่เอามาแถลงข่าวอีก ทำให้เสียหายที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สายวันที่ ๒๔ ม.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น หรือเสี่ยเฮ้ง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรครวมไทยสร้างชาติ รวม ๑๔ คนที่มาให้กำลังใจ เข้ายื่นฟ้องอดีตอธิบดีดีเอสไอ รักษาการอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบันและผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษ ตาม ป.อาญามาตรา ๑๕๗ และ ๒๐๐ วรรคสองก่อนยื่นฟ้อง นายสุชาติเผยว่า วันนี้ตนยื่นฟ้องอธิบดีดีเอสไอที่เซ็นเอกสารขณะนั้น รักษาการอธิบดีดีเอสไอ และ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ การที่ดีเอสไอออกมาแถลงข่าวส่งผลให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย แม้ว่าครั้งนั้นไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่พูดว่า รัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งช่วงปี ๒๕๖๓ เป็นช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นตน“การมายื่นฟ้องครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิ และเชื่อว่าการที่ดีเอสไอออกมาแถลงข่าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบกลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีนี้ทั้งที่ยื่นสำนวนให้ ป.ป.ช.ไปเมื่อปลายเดือน ตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังมาแถลงข่าวอีก ทั้งที่เรื่องเข้าสู่กระบวนการของ ป.ป.ช.แล้ว ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเรียกผมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถาม ทั้งที่ผมก็เป็นข้าราชการระดับสูง” นายสุชาติกล่าวถามว่าขณะดำรงตำแหน่งเมื่อปี ๒๕๖๓ มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับสินบนลักษณะที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ นายสุชาติยอมรับว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจริง และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นบริษัทเอกชนกับเอกชน ผลตรวจสอบออกมาก็ไม่พบ มองว่า ถ้าตนเกี่ยวข้องจะตั้งคณะกรรมการสอบทำไม“วันนี้เตรียมเอกสารหลักฐานจำนวนหลายร้อยแผ่นมายื่นต่อศาล เป็นข้อมูลจากข้าราชการในดีเอสไอที่เห็นว่า ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม หลายคนนำข้อมูลมาให้เอง หลังจากนี้เตรียมอภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรมในสภา แล้วท้าให้มาดูกันว่า ผมมีหลักฐานมากแค่ไหน นอกจากนี้ยังฝากถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ควบคุมดูแลหน่วยงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับประชาชน วันนี้ที่ผมมายื่นเรื่องฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ปกป้องสิทธิ์เช่นกัน” อดีต รัฐมนตรีว่าการแรงงานกล่าวส่วนคำฟ้องใจความว่า เมื่อวันที่ ๑๐ ม.ค. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีมติกล่าวหา อดีตรัฐมนตรี ๒ คน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ๒ คน รวม ๔ คน ความผิดตามมาตรา ๑๔๙ และ ๑๕๗ หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการหักค่าหัวคิวแรงงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์จำนวน ๑๒,๐๐๐ คน ระหว่างปี ๒๕๖๓-๒๕๖๖ คนละ ๓,๐๐๐ บาท รวมค่าเสียหาย ๓๖ ล้านบาท การแถลงข่าวครั้งนั้นทำให้วันที่ ๑๒ ม.ค. โจทก์ขอให้นำหลักฐานการเงินออกมาชี้แจง และที่มาของการตั้งข้อหาแต่ไม่เคยถูกเรียกสอบปากคำ การแถลงข่าวของดีเอสไอครั้งนั้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคำฟ้องไว้พิจารณา นัดโจทก์มาฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องวันที่ ๖ กุมภาพันธ์นี้หลังยื่นฟ้องนายสุชาติเผยด้วยว่า ศาลรับคำฟ้องแล้ว นัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องวันที่ ๖ กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนี้หากศาลมีคำสั่งขอเอกสารเพิ่มเติม ตนพร้อมนำมายื่น หากศาลมีคำสั่งรับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง ตนเตรียมพยานซึ่งเป็นข้าราชการในกรมแรงงานและผู้ที่เคยไปใช้แรงงานขึ้นให้ข้อมูลในชั้นไต่สวนมูลฟ้องด้วยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่