ยังไม่ต้องพูดถึงปัญหาต่างๆที่กดทับรัฐบาลชุดนี้อยู่แค่ ๓ เรื่องใหญ่ ซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงก็ยังเดินหน้าไปไม่ได้๑.ดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นนโยบายที่หาเสียงไว้ของรัฐบาลเอง๒.แลนด์บริดจ์สะพานเชื่อมระหว่างระนองกับชุมพร๓.“ทักษิณ” เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงเสียงจริง ซึ่งเป็นพลังหลักในการสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐วันนี้นายกรัฐมนตรีคงจะรู้แล้วว่าการเป็นซีอีโอบริษัทเอกชนนั้นมันง่ายกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีหลายร้อยเท่าพันเท่าจะทำอะไรแต่ละเรื่องไม่สามารถสั่งปุ๊บได้ปั๊บ เนื่องจากมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวพันมากทุกอย่างต้องมีเวลาของมันเป็นองค์ประกอบ“ควิกวิน” นั้นพูดง่ายแต่ทำยาก แม้จะเป็นเรื่องที่ดีและควรทำอย่างยิ่งใน ๓ เรื่องที่ว่ามานั้นกำลังจะถูกปลดจากโซ่ตรวนอยู่เรื่องเมื่อกรมราชทัณฑ์ได้เปิดเผยว่า เนื่องจาก “ทักษิณ” มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยเฉพาะการถูกคุมขังครบ ๖ เดือนแล้ว จึงอยู่ในข่ายที่สามารถจะ “พักโทษ” ได้ซึ่งเรือนจำจะพิจารณานักโทษทั่วประเทศที่มีคุณสมบัติและประกาศว่าใครเป็นใครบ้างที่จะได้สิทธินี้ถือเป็นระเบียบปฏิบัติ ไม่ต้องใช้เส้นใช้สาย หรืออำนาจการเมืองแต่อย่างใดคาดว่าราวกลางเดือน กุมภาพันธ์จะมีการประกาศเรื่องนี้มีข่าวแจ้งด้วยว่า ทางญาติของผู้ต้องขังได้เตรียมบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” ให้เป็นที่พักพิงระหว่างพักโทษแน่นอนว่าเรื่องนี้ด้านหนึ่งย่อมทำให้รัฐบาลและอำนาจการเมืองที่เป็นจริงของประเทศนี้คงสบายใจได้ระดับหนึ่งเพราะเป็นการสร้างความมั่นคงที่อยู่บนเงื่อนไขสัญญาข้อตกลงอีกทั้งแรงกดดันที่เกิดขึ้นมาตลอดก็คงจะต้องยุติความเคลื่อนไหวไปโดยปริยาย เพราะหมดประเด็นที่จะโจมตีนายกรัฐมนตรีน่าจะสบายใจขึ้น เพราะนี่เป็นปมหนึ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของเขาในฐานะผู้นำประเทศถือเป็นการตอบแทนบุญคุณได้ระดับหนึ่งในฐานะผู้ให้โอกาสเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งของผู้บริหารประเทศอีกทั้งทำให้การเมืองลดแรงกดดันจากฝ่ายที่เห็นว่า “ทักษิณ” ได้รับแรงหนุนจากอำนาจรัฐที่ทำให้เป็นนักโทษอภิสิทธิ์ชนเหนือกว่านักโทษโดยทั่วไปพูดง่ายๆว่าเป็นการ “ถอดสลัก” ความขัดแย้งได้ระดับหนึ่งแต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง “เศรษฐา” อาจจะคิดว่าเป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเขาก็เป็นได้ เพราะการที่ “ทักษิณ” มีอิสระเต็มตัว ถนนทุกสายคงจะวิ่งไปหาเขาในฐานะศูนย์กลางอำนาจที่แท้จริงอย่างที่พูดกันว่าเมืองไทยจะมีนายกรัฐมนตรี ๒ คน!แต่ก็ขึ้นว่า “เศรษฐา” จะวางบทบาทอย่างไรเพื่อให้ตัวเขาอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่แท้จริงและเต็มตัวดูเหมือนจะง่ายแต่มันคงไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะในทางการเมืองนั้นไม่มีอะไรเป็นมาตรฐานชี้วัดได้ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ยิ่งคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีและมีอำนาจเต็มๆในมือมันเผลอใจได้ทุกเมื่อหากเจอสิ่งเร้าด้วยสอพลอ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
Related posts