ชื่นชม ตำรวจช่วยเหลือหญิงวัย ๓๔ ปี ทะเลาะกับแฟนมาขอความช่วยเหลือ พบป่วยมะเร็ง ไร้เงิน จึงส่งขึ้นรถไปรักษาตัวที่กลับบ้านวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ มีรายงานว่า จากกรณีแฟนเพจ สื่อปราจีนบุรี ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ปราจีนบุรี สถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ ด.ต.นิรันดร์ นามพิลา ผบ.หมู่(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดสกัดประสพโชค ประชาชนขอความช่วยเหลืออยากกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ แต่ไม่มีค่ารถและหิวข้าว แจ้งว่าไม่ได้กินข้าวแต่ช่วงเย็นเมื่อวาน และเจ้าตัวแจ้งว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกต้องกลับไปรักษาที่ รพ.ชัยภูมิ จึงได้หาข้าวหานํ้าให้ทาน และมอบค่ารถให้ เป็นเงินส่วนตัว ๕๐๐ บาท พร้อมนำส่งที่ท่ารถคลองรั้ง เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป #สุดยอดตำรวจคือที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง”โดยในภาพเป็นหญิงรายหนึ่งสวมใส่เสื้อกางเกงขายาวแขนยาวสีดำนั่งทานข้าวกล่องอยู่ภายในป้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรูปภาพที่ ๒ พบหญิงสาวรายนั้นยืนถือธนบัตรแบงก์ร้อยอยู่ด้านหน้าจุดสกัดประสพโชค ส่วนรูปภาพที่ ๓ ได้พบหญิงสาวรายนั้นยืนถือตั๋วอยู่บริเวณศาลารอรถประจำทาง และมีรูปภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการช่วยเหลือ โดยหลังจากที่ได้โพสต์ออกไปได้มีคนเข้ามาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้อย่างมากมาย จากการตรวจสอบเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ พบว่า จุดที่รับแจ้งคือจุดตรวจสกัดประสพโชค ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ ๑๐ ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ได้พบกับ ดาบตำรวจนิรันดร์ นามพิรา ผบ.หมู่ ปราบปรามซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดประสพโชค ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดบริเวณที่หญิงรายนั้นเข้านอนพัก ซึ่งเป็นห้องพักของเจ้าหน้าที่สายตรวจที่มีที่นอน แอร์และทีวีไว้รองรับ ซึ่งทราบว่าหญิงรายนั้นได้เข้ามาขอความช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เมื่อเวลา ๒๐.๓๐ น. ของเมื่อคืนวันที่ ๒๔ มกราคม ที่ผ่านมาtt ttดาบตำรวจนิรันดร์ นามพิรา เปิดเผยว่า เมื่อคืนหญิงรายนั้นได้มีเพื่อนมาส่งที่ตู้ เวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งว่าทางหญิงสาวรายนี้น่าจะมีปัญหากับทางแฟนหนุ่ม จึงให้เพื่อนขับรถมาส่งที่ป้อมตำรวจเพราะคิดว่าอยู่กับตำรวจน่าจะปลอดภัยกว่า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดห้องที่อยู่ในป้อม ซึ่งเป็นห้องสแปร์เป็นห้องพักของตำรวจสายตรวจ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน รถเสียก็สามารถเข้ามาติดต่อและขอพักกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมประสพโชคได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้าวมีน้ำไว้รองรับบริการให้ จากที่ได้สอบถามหญิงรายนั้นทราบว่า เขาทะเลาะกับแฟนและอยากจะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิแต่ติดปัญหาของหญิงรายนั้นคือไม่มีเงินและได้ทราบต่อมาว่าหญิงรายนั้น มีปัญหาเรื่องสุขภาพคือป่วยเป็นมะเร็งช่องคลอด และต้องเดินทางไปฟังผลที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งหญิงรายนั้นก็บอกว่าหิวข้าวยังไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อวาน ตนจึงขับรถออกไปซื้อข้าวกล่องที่ร้านสะดวกซื้อมาให้กิน และได้มอบเงินให้จำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่าเดินทาง โดยตนได้ขับรถพาไปซื้อตั๋วที่ท่ารถ และส่งจนขึ้นรถเดินทางออกไป ซึ่งหญิงรายนั้นได้กล่าวขอบคุณตำรวจ พร้อมทั้งกล่าวว่าหากรักษาโรคหายจะแวะกลับมาขอบคุณ ตนก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องมา ให้รักษาร่างกายตัวเองก่อนด้านนายมานะ ไม้หอม อายุ ๕๓ ปี วินรถจักรยานยนต์ที่อยู่ในท่ารถได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพาหญิงรายนั้นเมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถกระบะ ๔ ประตูสีดำเข้ามาจอดที่ท่ารถ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบถามเวลารถเข้ากี่โมงtt ttจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ซื้อตั๋วรถให้กับหญิงสาวรายนั้น ซึ่งทราบว่าหญิงรายนั้นจะกลับบ้านที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยลักษณะหญิงรายนั้นเหมือนหญิงปกติทั่วไป เพราะตนไม่ได้สอบถามอะไรเพราะมาเห็นแค่แป๊บเดียวเขาก็ขึ้นรถออกไปแล้วจึงไม่ทราบว่าเขาป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งตนจะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพาผู้ที่ตกรถหรือตกทุกข์ได้ยากมาส่งขึ้นรถที่ท่ารถนี้เป็นประจำ ส่วนมากจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางเขาหินซ้อนที่มาบ่อย ส่วนทางตำรวจทางศรีมหาโพธิ ก็มีเหมือนกันแต่ก็จะไม่บ่อย ส่วนความคิดเห็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยคนนั้นตนคิดว่าดี เพราะมีแต่คนสรรเสริญว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก จึงอยากจะให้ทำแบบนี้ต่อไปจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าหญิงสาวรายนั้นชื่อนางสาวศุภรัตน์ อายุ ๓๔ ปีเป็นชาวตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดปราจีนบุรี โดยเดินทางมาทำงานที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าตูมมาแล้วหลายปี
