Tuesday, 19 November 2024

ถอนประกัน “บุ้ง ทะลุวัง” คดีป่วนศูนย์วัฒนธรรมฯ-ละเมิดอำนาจศาล-“ตะวัน” รอด

“บุ้ง ทะลุวัง-ตะวัน” ลุ้นระทึก ศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนถอนประกัน กรณีป่วนศูนย์วัฒนธรรมฯ-ละเมิดอำนาจศาล ด้าน “บุ้ง” วอน สังคมอย่ามองพวกตนก้าวร้าว สิ่งที่แสดงออก เพราะหวังดีต่อชาติ ล่าสุดมีคำสั่งถอนประกัน “บุ้ง” คนเดียววันที่ ๒๖ ม.ค. ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ศาลนัดฟังคำสั่งกรณีตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ไปร้องให้ถอนประกันตัว “ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ บุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม จำเลยในคดีมาตรา ๑๑๒ กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ ๘ ก.พ. ๒๕๖๕ หลังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ยื่นคำร้องโดยอ้างเหตุที่ทั้งสองเข้าร่วมชุมนุมและพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอด นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ และขณะเดียวกัน ศาลยังนัดฟังคำวินิจฉัยคดี ละเมิดอำนาจศาล ของบุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม กรณีกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลของศาลอาญากรุงเทพใต้ป้องกันตัวด้วยการใช้ดิ้ว หรือ กระบองเหล็กยืดหด ตีเข้าที่บริเวณข้อศอกจนเกิดอาการบาดเจ็บ แพทย์ต้องทำการรักษาและเย็บ ๔ เข็มด้านนางสาวกุณฑิกา นุตจรัส หรือ ทนายทราย ทนายความประจำตัวของ นางสาวทานตะวัน และนางสาวเนติพร กล่าวว่า วันนี้มีสองคดีคือ คดีที่จะอ่านคำสั่งถอนประกัน และคดีละเมิดอำนาจศาล ตอนนี้รอให้ศาลตัดสิน ผลจะออกมาไม่เกินเที่ยงของวันนี้ (๒๖ มกราคม ๒๕๖๗)ด้านนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ จำเลย ม.๑๑๒ กล่าวว่า ส่วนตัวตนไม่ได้มีความคาดหวังและไม่ได้กังวลในกระบวนการยุติธรรมเลย ที่ผ่านมา ตนเจออะไรหลายอย่าง ตั้งแต่ ตนเองไปทำโพลสอบถามความคิดเห็น แต่ถูกถอนประกันเข้าคุก แม้จะออกจากบ้านไปซื้อกับข้าวก็ต้องขออนุญาตศาล สุดท้ายหนูก็ต้องตัดสินใจถอนประกันตัวเองเพื่อยืนยันในสิทธิการประกันตัวของเพื่อนหลายคน ตนฝากคนในสังคมและฝากคนในกระบวนการยุติธรรมว่า ให้มีการพัฒนาที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ด้านนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง กล่าวว่า ตนก็ไม่เคยคาดหวังในกระบวนการยุติธรรมไทยอยู่แล้ว ถ้าวันนี้ผลในการตัดสินออกมาเลย เพราะเกิดจากกรณีการไปเรียกร้องให้ถอดถอน สว.เนาวรัตน์ แต่กลับถอนประกันเรา ปกป้องผู้มีอำนาจ ประเทศไทยก็แสดงชัดแล้วตั้งแต่กรณีนายมงคล หรือ บัสบาส ที่ถูกตัดสินจำคุกมาตรา ๑๑๒ ถึง ๕๐ ปี ประเทศไทยก็ไม่ควรที่จะคาดหวังไปเป็นคณะมนตรีแห่งสหประชาชาติ ที่จะมีการเลือกเร็วๆ นี้“ตนเองเป็นลูกผู้พิพากษา ปกติได้เห็นความปกติของความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับประชาชนเยอะ มันเป็นเหตุผลว่า ทำไมตนถึงออกมาเรียกร้อง ซึ่งอยากให้มองที่เนื้อหาที่ตนออกไปเรียกร้อง อย่าไปมองว่าพวกตนก้าวร้าว อยากให้มองว่าเราทำเพื่อสังคมไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เพราะอยากได้ประเทศที่ดี” นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง กล่าวสำหรับบรรยากาศในวันนี้ มีประชาชนและเพื่อนสนิทของจำเลยทั้งสองคนเดินทางมาให้กำลังใจและได้มอบดอกกุหลาบรวมถึงผักบุ้งเป็นกำลังใจให้จำเลยทั้งสองก่อนขึ้นฟังคำตัดสินด้วยล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นขอถอนประกันคดี “๑๑๒” กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ศาลชี้ว่า จากกิจกรรมที่เกิดขึ้น มีพยานผู้ร้องเห็นว่า บุ้งได้ทำการพ่นสีสเปรย์ลงบนธงประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวที่ห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหานี้อีกส่วนตะวัน ศาลเห็นว่า จากคำเบิกความของพยาน ไม่มีพยานหลักฐานชี้ให้เห็นว่าการที่จำเลยเข้าร่วมชุมนุม เหตุในการถอนประกันในคดีนี้มาจากการชุมนุมพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอดนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๖ ส.ค. ๒๕๖๖ โดยศาลได้นัดไต่สวนฯ “ตะวัน” และ “บุ้ง” ไปเมื่อ ๒๑ พ.ย. ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว