ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ ไฮไลต์การเมืองในห้วงนี้น่าจะอยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่อง “ล้มล้าง” การปกครองพุธที่ ๓๑ มกราคม๖๗ เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งเนื่องจากมีการยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีที่ “ก้าวไกล” ได้หาเสียงว่าจะ แก้ไข ม.๑๑๒ เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่แม้ “ก้าวไกล” จะมั่นใจว่าไม่น่ามีผลอะไร เนื่องจากคำร้องระบุเพียงว่าให้ยุติการกระทำนั้น ไม่ได้ให้ตีความถึงขั้น “ยุบพรรค”ผลการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร หากเป็นไปอย่างที่ “ก้าวไกล” มั่นใจก็แล้วไป เว้นแต่จะกินความไปถึงการ “ยุบพรรค” ก็จะเกิดปัญหาการเมืองแน่นอนเพราะหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค จะมีความผิด ถูกตัดสิทธิทางการเมือง บรรดาลูกพรรคต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดภายในเวลาที่กำหนดนั่นคงทำให้การเมืองพลิกผันไปอีกมุมหนึ่งที่แน่ๆคือ “ก้าวไกล” จะถูกลบชื่อไปจากสารบบ พรรคการเมืองใหม่จะมี สส. น้อยลงกว่าเดิม ทำให้พลังทางการเมืองลดความเข้มข้นลงเพราะบรรดาแกนนำคนสำคัญๆ เช่น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”-“ชัยธวัช ตุลาธน” ต้องไปอยู่นอกวงโคจร ไม่ต่างไปจาก “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์”แม้พรรคใหม่จะยืนหยัดใน “อุดมการณ์” ต่อไปได้ แต่ความเข้มแข็งคงลดลงไปโดยปริยาย เพราะดูจากแต่ละคนแล้ว “ศักยภาพ” ยังไม่ถึงระดับนั่นว่ากันไปในด้านผลลบที่จะเกิดขึ้นตรงกันข้าม หากเป็นด้านบวกคือไม่มีปัญหา “ก้าวไกล” ก็จะโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะขาด “พิธา” เพียงคนเดียว ที่รอดจากคดี “หุ้นสื่อ”เท่านั้นแหละ…“ก้าวไกล” มีชีวิตชีวาพลิกฟื้นคืนความเป็นพรรคการเมืองที่มีอนาคตสดใสขึ้นมาทันควัน บรรดาลูกพรรคตาแวววาวขึ้นมาอย่างน่าพิศวงเพราะเกิดความมั่นใจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว“พิธา” เป็นผู้นำของพวกเขาซึ่งได้รับการยอมรับอย่างสูงที่เดินเข้าสภาฯอย่างผู้มีบารมีทำให้รัฐบาลหวั่นไหวไม่น้อยตามรูปการณ์หากเขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็จะควบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเต็มตัวจากการประกาศแนวทางการทำงานในฐานะฝ่ายค้านก็มีความชัดเจนด้วยประกาศว่าจะทำหน้าที่อย่างสุดฝีมือ“ทักษิณ” ก็ไม่เว้นถ้าทำไม่ถูกต้องตามครรลองประเด็นที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ เขายังเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีอีกด้วยเส้นทางการเป็นผู้นำประเทศยังอยู่ในมือยิ่งอนาคตของ ๒๕๐ สว.จะหมดวาระในเดือน พฤษภาคมเส้นทางก็โล่งไม่เป็นอุปสรรคที่จะคิดหนักก็คือ รัฐบาลภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊งค์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแม้กระทั่ง “ทักษิณ” เองก็เถอะ…การเลี้ยงสังสรรค์ของหัวหน้าพรรค การเมืองร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้พูดถึงเรื่องปรับ คณะรัฐมนตรีแต่ในใจของทุกคนคงต้องคิดถึง “ก้าวไกล” อย่างแน่นอนเพราะฉากทัศน์ทางการเมืองกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อคู่แข่งสำคัญกลับคืนสู่เวทีอย่างเต็มตัว ทุกก้าวเดินต่อไปจึงต้องระมัด ระวังมากยิ่งขึ้นการผลักดันผลงานให้ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมจึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาในการยอมรับของประชาชนที่แน่ๆคือ การตรวจสอบอย่างเข้มข้นของฝ่ายค้านที่นำโดย “ก้าวไกล”เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีแค่ “เศรษฐา -อุ๊งอิ๊งค์” แต่ยังมีชื่อ “พิธา” ที่รอคิวอยู่เช่นกัน หากการเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุใดก็ตามเพราะผู้นำประเทศนั้นไม่ใช่สมบัติที่จะส่งมอบให้กันได้ง่ายๆ!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม
Related posts