Thursday, 19 December 2024

"เศรษฐา-แพทองธาร" คึก ลุยซอฟต์พาวเวอร์ คิกออฟงานออกแบบกรุงเทพฯ

“เศรษฐา-อิ๊งค์” ร่วมคิกออฟ “ออกแบบกรุงเทพฯ ๒๕๖๗” (Bangkok Design Week ๒๐๒๔) หวังจุดกระแสซอฟต์พาวเวอร์ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวปั้นรายได้ ยันจัดแน่เทศกาลมหาสงกรานต์ “หมอเลี้ยบ” ฟุ้งเงินสะพัดทะลุ ๓.๕ หมื่นล้าน “ปิยบุตร” กระทุ้งโรดแม็ป “พิธา” คิดผิด ตีหมอบไม่แก้ ๑๑๒ เข้าทาง คนตระบัดสัตย์ ปลุกผู้นำก้าวไกลเลิกหงอต้องกล้าวิจารณ์ ก.ก.ปล่อยคลิป “ปฏิรูป ไม่เท่ากับล้มล้าง” “ภูมิธรรม” ปากกล้าไม่หวั่นถูกซักฟอก แต่แอบแซะฝ่ายค้านอย่ามัวแต่จ้องล้ม “ด็อกเตอร์เอ้-ตั๊น” ปรับโฉม ปชป. ชู “FASHION CONTEST” เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ยังกั๊กท่าหนุน “แลนด์บริดจ์”นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ฯ ร่วมคิกออฟ “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ๒๕๖๗” (Bangkok Design Week ๒๐๒๔) หวังจุดกระแสซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายรัฐบาลนายกฯเปิดงานออกแบบกรุงเทพฯเมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ๒๕๖๗ (Bangkok Design Week ๒๐๒๔) ภายใต้แนวคิด “Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี” มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมงาน มีนางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน“อิ๊งค์” จุดกระแสซอฟต์พาวเวอร์น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การจัดงานนี้เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่กำลังชวนทุกคนมาร่วมกันลงมือทำ ผลักดันให้เกิดการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยไปสู่ตลาดโลก เทศกาลเป็นเสมือนแหล่งรวมแนวคิดและผลผลิตใหม่ๆ สะท้อนถึงวัฒนธรรมของเมืองที่เป็นเหมือนวัตถุดิบ ให้ภาครัฐและเอกชนนำไปส่งเสริมต่อยอดให้เข้มแข็ง เมื่อสามารถทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นได้ต่อเนื่อง จะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีพลังดึงดูดผู้คนให้สนใจ และกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมต่อ ตั้งแต่ระดับการค้าการลงทุน ไปจนถึงการเดินทางมาท่องเที่ยว และอยู่ในประเทศไทยมากขึ้นtt ttกระตุ้น ศก.ท่องเที่ยวปั้นรายได้นายเศรษฐากล่าวว่า ยินดีที่มีการจัดงานนี้ขึ้นมา ได้เห็นพลังสร้างสรรค์ของคนจากหลากหลายอุตสาหกรรมกว่า ๑,๐๐๐ คนที่มาร่วมแสดงผลงาน ที่สำคัญคือมาช่วยกันคิดพัฒนาสาธารณูปโภค และคุณภาพชีวิต ของผู้คนในเมือง รวมกว่า ๕๐๐ โปรแกรม ยังได้เห็นกิจกรรมและผลงานสร้างสรรค์ที่กระจายใน กทม.มากกว่า ๑๕ ย่าน ทำให้คนรู้จักเสริมการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน นำไปสู่การสร้างรายได้ การจ้างงานให้กับผู้ประกอบการและชุมชน การจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯทั้ง ๖ ครั้งที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมมากกว่า ๒ ล้านคน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง ๑,๙๔๘ ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เห็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างมูลค่าแก่สินค้าและบริการ ด้วยการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยต่อยอดสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยส่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันของธุรกิจไทยในระดับสากล และเห็นการสร้างสีสัน ความเคลื่อนไหวใหม่ๆให้กับ กทม. ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมในแต่ละย่าน ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม สนับสนุนกระบวนการสร้าง Soft Power ต่อมานายกฯ และ น.ส.แพทองธารเดินชมนิทรรศการ และร่วมกิจกรรม Creative Power House เป็นแบบวาดภาพลายเส้นเฉพาะตัวผ่านกระจกรีไซเคิล พร้อมเซ็นชื่อบนกระจก โดยมีการปรินต์ภาพมอบ ให้เป็นที่ระลึกยันจัดแน่เทศกาลมหาสงกรานต์น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า เห็นหลายผลงานที่น่าประทับใจ รู้สึกว่าคนไทยมีความสามารถอีกเยอะมาก การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์เราเชื่อว่าจะเห็นศักยภาพจากหลายคนที่เรายังค้นไม่เจอ เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดเทศกาลสงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย น.ส.แพทองธารตอบว่า ขณะนี้ เริ่มประชาสัมพันธ์ในเวทีซอฟต์พาวเวอร์ไปก่อน ว่าเรามีโรดแม็ปที่จะทำเรื่องสงกรานต์ ส่วนงบประมาณยังต้องรอนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า รูปแบบงานสงกรานต์เรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนเสนอของบฯกับสำนักงบประมาณ และนำเสนอสู่คณะกรรมการฯแล้ว ได้เห็นแน่นอน ในเดือน กุมภาพันธ์จะเริ่มประชาสัมพันธ์ เมื่อถามว่ายังคาดหวังว่าเงินจะสะพัดถึง ๓๕,๐๐๐ ล้านบาทเหมือนเดิมหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เหมือนเดิม น่าจะมากกว่านั้นด้วย เพราะความตื่นตัวของนักท่องเที่ยวที่จะมาเห็นได้ชัดเจนว่าเติบโตขึ้นมาก เดือน เมษายนน่าจะโตขึ้นอีกtt tt“ป๊อก” กระทุ้งโรดแม็ป “พิธา” คิดผิดวันเดียวกัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “กรณีก้าวไกล กับการแก้ ๑๑๒” ไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์แผนงานของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในปี ๒๕๖๗ เข้าใจว่าทีมงาน พรรคต้องการจัดแถลงการณ์เพื่อต้อนรับการกลับมา ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีต หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่เมื่อเห็นเนื้อหาทั้งหมดแล้ว เห็นว่าผิดพลาด โดยเฉพาะแผนเสนอร่าง พ.ร.บ. ๔๗ ฉบับ โดยไม่มีร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ พรรคอาจไม่ได้คิดว่าต้องพูดเรื่องนี้ แต่สื่อ เขาคิด สื่อถามจี้ขยายผลว่าสรุป ๔๗ ฉบับ ในปี ๒๕๖๗ ไม่มีแก้มาตรา ๑๑๒ ใช่ไหมตีหมอบเข้าทางคนตระบัดสัตย์นายปิยบุตรระบุว่า กรณีนี้ส่งผลอย่างไร ๑.ย้ำความคิดว่าเราต้องยอมรับให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาอยู่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติ การเสนอร่างกฎหมาย ต้องฟังว่าศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร ๒.การไม่เสนอ และพูดว่าไม่เสนอ เพราะรอศาลรัฐธรรมนูญ เสมือนส่งสัญญาณหมอบก่อนคำวินิจฉัยวันที่ ๓๑ มกราคมนี้ ๓.หากพรรค ก.ก. คิดแบบเฉลียวเจ้าเล่ห์ ก็ไม่มีความ จำเป็นต้องแถลงการณ์เลย อดใจรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ๓๑ มกราคมก่อนก็ได้ เผื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะหา ทางลงให้พรรค ก.ก. ด้วยการตีกรอบการแก้ ๑๑๒ ไว้ ต่อไปพรรค ก.ก.ก็พูดตอบประชาชนโหวตเตอร์ได้ว่าแก้ ๑๑๒ ไม่ได้ เพราะแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ บอกไว้ ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดว่าจะต้องแก้ ๑๑๒ ให้ได้ โดยไม่ต้องทำเรื่องอื่น แต่เห็นว่าการเคลื่อนไหวตลอด สัปดาห์นี้ ถึงวันที่ ๓๑ ม.ค. ไม่ได้คิดประเมิน รุกถอย บริหารจัดการความคาดหวังคนเลือก แต่มุ่งไปในทิศทางหมอบเสียมากกว่า ด้วยคิดว่าจะช่วยทำให้รักษาพรรคได้ พอเป็นแบบนี้ก็เข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่รอเอาคืน จากการที่พวกเขาถูกหาว่าตระบัดสัตย์ปลุกผู้นำ ก.ก.เลิกหงอกล้าวิจารณ์นายปิยบุตรระบุอีกว่า คาดเดาไว้แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยแบบใด ได้แต่หวังว่าคณะผู้นำ พรรค ก.ก.ทั้งหมด จะประเมินเรื่องทั้งหมดให้รอบด้าน โดยมิได้ตั้งเป้ารักษาพรรคและกรรมการบริหารพรรค จนถึงขนาดต้องแลกกับทุกอย่าง หวังว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้ว จะได้ยินเสียงการวิจารณ์ จากพรรค ก.ก.บ้าง หากพรรค ก.ก.ไม่วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญเลย จะออกมาวิจารณ์พรรค ก.ก.เป็นคนแรกๆ แน่นอน จะวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญตามปกติ ครรลองของกระบวนวิชาการตามที่ฝึกฝนมา ป.ล. ดักคอกองเชียร์พรรค ก.ก.ไว้ก่อน ที่จะมาด่าว่าทำไมไม่ไปบอกก่อน ไม่คุยภายใน เพราะไม่รู้เรื่องที่พวกเขา ทำกัน เป็นคนนอก รู้เรื่องจากการอ่านข่าว รู้พร้อมๆกับประชาชนคนทั่วไปที่ดูจากสื่อปล่อยคลิป “ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง”เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอความยาว ๗.๕๘ นาที เนื้อหาในคลิปเล่าย้อนหลาย เหตุการณ์ อาทิ เหตุการณ์ที่ สส. ๔๔ คนของพรรค ก้าวไกล ร่วมกันยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์๒๕๖๔ จนถึงวันนี้ร่างดังกล่าวยังไม่เคยถูกบรรจุเข้าวาระของสภาฯ ทั้งนี้เพจเฟซบุ๊ก พรรค ก.ก. ระบุข้อความว่า “ปฏิรูป ต้องไม่เท่ากับล้มล้าง” แก้ไข ๑๑๒ ไม่เท่ากับล้มสถาบัน แต่คือหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา พรรค ก.ก.ขอยืนยันว่า การแก้ไขมาตรา ๑๑๒ เป็นไปเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่คู่สังคมประชาธิปไตย สร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองประมุข กับการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เพราะการวางสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในที่สูง ไม่ได้ใช้กฎหมายที่รุนแรงและโทษสูง แต่คือการธำรงสถานะของพระมหากษัตริย์ไว้บนฐานของเหตุผล สติปัญญา และความยินยอมพร้อมใจของประชาชน #แก้ไขไม่ใช่ล้มล้าง“อ้วน” ขาสั่นไม่หวั่นถูกซักฟอกขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงกรอบเวลาอภิปรายรัฐบาลช่วงเดือน เมษายนว่า ไม่ต้องวางแผน ฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว ขออย่างเดียว ให้ทำการเมืองใหม่จริงๆเอาที่ข้อเท็จจริง ดำเนินการ ไปแล้วไม่เหมาะสมอย่างไร เมื่อถามว่ามองว่ากรอบ เวลาที่จะอภิปรายเร็วไปหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า แล้วแต่ฝ่ายค้าน ความจริงรัฐบาลเพิ่งทำงานได้แค่ ๔ เดือน ทำงานโดยไม่มีงบประมาณตรง เพราะงบประมาณปี ๖๗ ยังอยู่ในสภา ถือว่าเราไม่มีเงินแต่เรา ก็ทำงาน เตรียมโครงสร้างการแก้ไขปัญหาต่างๆ เมื่อมีเงินเข้ามาก็ดำเนินการ อยากให้ฝ่ายค้านช่วยดูนิด อย่าทำการเมืองที่มุ่งผลประโยชน์ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือประโยชน์ของพรรคตัวเองเท่านั้นยันทำงานเต็มที่ไม่มีเรื่องกังวลเมื่อถามว่ารัฐบาลกังวลเรื่องไหนจะถูกนำไป อภิปรายหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่มีเรื่องอะไร ต้องกังวล เราทำงานเต็มที่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยอย่าง ที่นายกฯบอก มีแต่กังวลว่าเราจะทำงานให้ดีขึ้นได้มากเพียงใด เมื่อถามว่ายังมั่นใจเสียงพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะร่วมลงมติหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ในวงกินข้าว ของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนมาด้วยความรู้สึกร่วมกันว่ามีปัญหาที่ต้องเข้ามาช่วยกันแก้ไขให้ประเทศ ทำให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤติ อยากเชิญชวนทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทำหน้าที่ตรวจสอบให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่ทำให้สะดุดหรือชะงัก เพราะประเทศเสียหายมามากแล้วพท.แซะอย่ามโนตัดต่อซักฟอกนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรค เพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเอาหล่อ ๖ เป้าหมายสำคัญ เพื่อตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล ให้ล้อกับ ๖ เดือน ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน อย่ามโนตัดต่อข่าวจับแพะชนแกะ แล้วเอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขอเวลาให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน ควรคิดการเมืองให้น้อยคิดถึงบ้านเมืองให้มาก รัฐบาลกำลังทำงานแก้ไขวิกฤติ เศรษฐกิจที่เรื้อรังมานานนับ ๑๐ ปีอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรผิด งบประมาณก็ยังไม่ผ่านสภา ฝ่ายค้านจะเอาอะไรมาตรวจจับทุจริตรทสช.ไม่ปล่อยคนต้องคดี ม.๑๑๒นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า ผู้ที่กระทำความผิด ป.อาญา มาตรา ๑๑๒ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงจะรวมคดีนี้ เข้าในร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมทางการเมืองของพรรค ก.ก.ว่า ไม่เห็นด้วยและขอคัดค้าน คดีหมิ่นประมาทล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นคดีอาญาไม่ใช่เรื่องการเมือง ย้ำว่าสถาบันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ขอเรียกร้องให้นายพิธาไปคิดทบทวนเรื่องนี้ใหม่ เข้าใจผิดอะไรหรือไม่ เพราะ ป.วิอาญา มาตรา ๑๑๒ มีไว้เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์ ประมุขแห่งรัฐและ สถาบันฯ เป็นความมั่นคงของชาติ ใครจะล่วงละเมิดมิได้ การที่นายพิธาคิดและมองแบบนี้ถือเป็นเรื่อง อันตรายมากกับประเทศ เชื่อว่าทั้งสภาไม่มีพรรคไหน นอกจากพรรค ก.ก.ที่เห็นว่าคดีผิดมาตรา ๑๑๒ เป็นเรื่อง การเมือง มีแค่กลุ่มเดียวที่นายพิธายกขึ้นมาอ้างเท่านั้นtt ttปชป. ชู “FASHION CONTEST”ช่วงสายที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาค กทม. พร้อม น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร รองหัวหน้าพรรคด้านภารกิจ และกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงเปิดโครงการประกวดออกแบบเสื้อแจ็กเกต เสื้อกั๊ก และเสื้อโปโลรูปแบบใหม่ให้กับพรรค ปชป. ชิงเงินรางวัลกว่า ๑๕๐,๐๐๐ บาท มีการนำผลงานส่วนหนึ่งจากผู้ส่งเข้าประกวดมาแสดงโชว์ น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า กิจกรรม “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST” เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาและบุคคลทั่วไปส่งผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกาย ๓ ประเภท คือ แจ็กเกต เสื้อกั๊ก และเสื้อโปโล ที่สื่อถึงพรรค ปชป. สามารถใช้งานได้จริง สามารถส่งผลงานมาได้ที่ democrat.or.th/fashion contest จนถึงวันที่ ๒๙ ก.พ. จะประกาศผลวันที่ ๙ มีนาคมนี้ วันนี้ผู้บริหารชุดใหม่ทุกคนมีความตั้งใจทำงานเต็มที่ มีเอกภาพ พรรคอยู่มา ๗๘ ปี เปลี่ยนมาหลายยุคหลายสมัย และยังคงอยู่ตรงนี้ ยึดมั่นในอุดมการณ์“ราเมศ” คุยจับมือก้าวไกลไหลลื่นนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงทิศทางการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลว่า ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าเราทำงานประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลไปในทิศทางเดียวกันได้ การทำงานในสภาฯช่วงที่ผ่านมาทุกอย่างราบรื่นดี เรื่องโรดแม็ปของพรรคก้าวไกล เราไม่ก้าวล่วง แต่ในเรื่องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ชัดเจน การประสานเป็นหน้าที่ของวิปฝ่ายค้าน มีนายประมวล พงษ์ถาวราเดช ประธาน สส.พรรค ปชป. และนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ ทำหน้าที่ประสานและให้การสนับสนุนการทำงานในสภาฯอย่าเพิ่งใจเร็วดัน “แลนด์บริดจ์”ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรค ปชป.มีความเห็นอย่างไรต่อโครงการแลนด์บริดจ์ที่รัฐบาลชูเป็นโครงการลงทุนหลัก นายราเมศตอบว่า พรรคได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งทำการศึกษาและเก็บข้อมูล รวมทั้งจะมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้ความเห็น แต่ไม่อยากให้คิดว่าคนในพื้นที่มีความเห็นเป็น ๒ ฝั่ง คือฝั่งที่เห็นด้วย กับฝั่งที่ไม่เห็นด้วย แต่มีขั้นตอนที่รัฐบาลละเลย คือรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเรื่องการรับฟังความเห็นประชาชน และการให้ข้อมูลความรู้ของโครงการ เพราะโครงการใหญ่ขนาดนี้ย่อมมีทั้งผลดีและผลเสีย รัฐบาลจำเป็นต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ไม่เช่นนั้นอาจเดินผิดทิศผิดทางยังกั๊กท่าประกาศหนุนหรือค้านนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ กล่าวว่า เราเก็บข้อมูลไว้แล้วระดับหนึ่งและพรรคมีตัวแทนเข้าไปนั่งอยู่ใน กมธ.ด้วย กรณีนี้แตกต่างจากการขุดคอคอดกระ ที่ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วย แต่กรณีแลนด์บริดจ์จำเป็นต้องมีข้อมูลให้ครบถ้วนมากที่สุด เพราะยังแกว่งไปแกว่งมา ลำพังข้อมูลของรัฐหน่วยงานเดียวยังไม่มีเอกภาพ และข้อมูลระหว่างหน่วยงานยิ่งไปกันใหญ่ การศึกษาโครงการจำเป็นต้องมีเอกภาพกว่านี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือสร้างความมั่นใจต่อประชาชนให้ได้ ยืนยันเราไม่ได้ขัดขวางการสร้างความเจริญก้าวหน้าสู่ภาคใต้ เดี๋ยวจะมีการสร้างความเข้าใจผิดตามมาอีก เพียงแต่เก็บข้อมูลศึกษาว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรสวน “วรชัย-พายัพ” อย่าร้อนตัวน.ส.ศิริภา อินทวิเชียร อดีตผู้สมัคร สส.กทม. คณะทำงานนายชวน หลีกภัย กล่าวตอบโต้นายวรชัย เหมะ และนายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวพาดพิงนายชวนว่า สิ่งที่นายชวนพูดเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอนพักรักษาอยู่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจมานานเกือบ ๕ เดือนเป็นข้อเท็จจริงที่สังคมกำลังตั้งคำถาม เป็นการแสดงความกังวลถึงหลักการในกระบวนการยุติธรรม เกรงจะถูกทำลายจากการปฏิบัติสองมาตรฐาน เป็นห่วงข้าราชการระดับล่างที่มักตกเป็นเหยื่อนักการเมือง มีหลายคดีทุจริตเป็นตัวอย่าง ทั้งนายวรชัยและนายพายัพควรพึงสังวร และทบทวนดูว่ามีรัฐมนตรีและข้าราชการในอดีตต้องติดคุกไปกี่คน หลายคนที่ถูกนายใหญ่ทอดทิ้งต้องจบชีวิตการเมืองอยู่ในเรือนจำอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่