สาววัย ๑๖ ปี ที่สุรินทร์เจอกับเหตุการณ์ประหลาด ออกไปถ่ายภาพหมู่ดาวยามค่ำคืน ถ่ายติดภาพคล้ายผู้หญิง เอามาให้เพื่อนๆ ช่วยดู ต่างลงความเห็นว่าน่าจะเป็น “กระสือ” มีทั้งหัวทั้งไส้ ขณะที่ผู้เฒ่าในหมู่บ้านเล่าเหตุการณ์เมื่อ ๒ ปีก่อน เห็นกระสือลอยผ่านหน้าจากกรณีผู้ใช้ facebook นามว่าโรเก น้ำเขียว ได้นำภาพซึ่งเพื่อนบ้านถ่ายไว้ได้ เมื่อคืนวันที่ ๒๖ มกราคมที่ผ่านมา พร้อมโพสต์ว่าช่วงนี้ระวังตัวกันด้วยนะพี่น้องชาวบ้านน้ำเขียว เห็นพากันมีคนเห็นผีกระสือออกอาละวาด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางออกไปสืบหาข้อเท็จจริงตามที่อ้างว่า มีคนพบอยู่ที่ข้างที่พักหน่วยกู้ชีพ ใน อบต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบกับ นายนิธิกันต์ จำปาจีน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว บอกว่าเหตุการณ์เกิดเมื่อคืนวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมาเวลา ๑๙.๔๙ น. คนที่ถ่ายภาพไว้ได้ชื่อน้องอุ้ม ซึ่งมานั่งเล่นและรับประทานอาหารด้วยกันกับเพื่อนๆ หลายคนในบริเวณม้าหินอ่อนหน้าที่พัก โดยน้องอั้มเดินออกไปถ่ายภาพดวงดาวต่างๆ และเกิดไปติดกับภาพที่คล้ายแสงไฟประหลาด จึงเดินเข้ามาให้หลายๆ คนดู และช่วยกันวิเคราะห์ ต่างก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าจะเป็นกระสือมาปรากฏตัวเหนือต้นประดู่ข้างหน่วยกู้ชีพ ต้นสูงจากพื้นประมาณ ๑๐ กว่าเมตร ซึ่งนายนิธิกันบอกว่าส่วนตัวแล้วไม่เคยเห็นผีกระสือและไม่เชื่อว่าจะมีจริง แต่เมื่อเห็นภาพนี้แล้วเชื่อว่ากระสือนั้นมีจริงเช่นเดียวกันกับ นายสมพร สระหอม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยกัน บอกว่าน้องอั้มเอาภาพมาให้ดู แต่ก่อนนี้ก็ไม่เคยเชื่อว่ากระสือนั้นจะมีจริง แต่พอได้ดูภาพแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นกระสือจริงๆ โดยเขาบอกว่าลอยมาจากทางโรงเรียนบ้านน้ำเขียว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามทาง อบต. ด้าน นายบุญทัน สงคราม อายุ ๘๔ ปี อยู่หมู่ ๖ บ้านน้ำเขียว ตำบลน้ำเขียว อำเภอรัตนบุรี บอกว่าตนเคยเห็นผีกระสือลอยเข้ามาในหมู่บ้านเมื่อประมาณ ๒ ปีที่แล้ว ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ๖ ทุ่ม ตนกลับจากไปเยี่ยมญาติซึ่งป่วย ขณะเดินกลับก็เห็นลักษณะคล้ายกระสือลอยผ่านหน้าไป จึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นกระสือจริงๆส่วน นายเฉลิม ไกรทอง อายุ ๗๖ ปี หมอยาประจำบ้านน้ำเขียวและเป็นผู้ดูแลศาลปู่ตาบ้านน้ำเขียว บอกว่าส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แต่ก็เคยเห็นเมื่อ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว ขณะเดินออกไปช่วยชาวบ้านที่เจ็บป่วยในเวลากลางคืน ก็เห็นลักษณะเป็นแสงไฟลอยมาพร้อมกับคล้ายหยดไฟตกลงที่พื้น จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อจะได้พิสูจน์ความจริง และไปขอจุดไฟด้วย เพราะตนเป็นคนที่ไม่กลัวเรื่องนี้ แต่เดินเข้าไปยังไงก็ไม่ถึง ดวงไฟนั้นดับไป ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะเป็นกระสือนั่นแหละ ส่วนเหตุการณ์กระสือที่นางสาวอั้มบอกว่าเห็นอยู่ที่ข้างบ้านพักหน่วยกู้ชีพใน อบต.น้ำเขียวนั้น ตนก็ไม่แน่ใจ เพราะถ้าเห็นน่าจะเรียกคนอื่นๆ ที่อยู่หลายคนออกไปดูพร้อมๆ กันเพื่อจะได้มีพยานเพิ่มมากขึ้น ส่วนตนก็อยากเห็นของจริงอยู่เหมือนกันนางสาวปนัดดา สีมารักษ์ หรืออั้ม อายุ ๑๖ ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพกระสือเอาไว้ได้ บอกว่าวันนั้นตนเดินออกไปด้านข้างบ้านพักของหน่วยกู้ชีพ เพราะเห็นว่าท้องฟ้ามีดวงดาวอยู่มาก จึงอยากถ่ายภาพเก็บไว้ จากนั้นจึงลงมือถ่ายภาพดวงดาวต่างๆ จนกระทั่งมาเอะใจมีภาพหนึ่งที่ถ่ายได้ลักษณะเหมือนดวงไฟยาวๆ จึงรีบเอาภาพนั้นมาให้พี่ๆ เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่หลายคนช่วยดูและวิเคราะห์ว่าคือภาพอะไร ซึ่งหลายคนก็บอกว่าน่าจะถ่ายภาพติดกระสือที่ลอยอยู่เหนือต้นประดู่ จนเมื่อกลับบ้านไปนอนก็ฝันร้ายและละเมอตลอดทั้งคืน คืนต่อมาจึงได้ไปเอาพระมาห้อยคอตอนนอน ซึ่งเหตุการณ์ฝันร้ายก็หายไป ขณะนี้ตนยังกลัวอยู่บ้าง แต่ก็เล็กน้อยเท่านั้น
ฮือฮา ภาพกระสือที่สุรินทร์ สาว ๑๖ ถ่ายได้ขณะลอยผ่านต้นประดู่
Related posts