Thursday, 19 December 2024

ม.๑ เล่นแรงเตะปาก ป.๕ ฟันหักยกแผง ๔ ซี่ จ่ายค่าเสียหายกว่า ๔ แสน

เด็กชายรุ่นพี่รุ่นน้องเล่นปาขวด อยู่ๆ รุ่นพี่ ม.๑ ลุกเตะปาก ป.๕ ฟันหักยกแผง ๔ ซี่ ผู้ปกครองสองฝ่ายเจรจาหลายรอบ สุดท้ายได้ข้อสรุป จ่ายค่าทำขวัญ ๓.๕ หมื่น ส่วนฟัน ๔ ซี่ ทั้งค่ารักษา ค่าทำฟันใหม่ ค่าทำกระดูกเทียม ตกซี่ละแสน รวมแล้วพ่อแม่คนเตะต้องจ่ายทั้งหมดกว่า ๔ แสนจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Social Hunter ๒๐๒๒ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า ….. ได้ไหมใช้ความรุนแรงแต่วัยเด็ก โตขึ้นจะเป็นเช่นไร เด็กอายุ ๑๑ ขวบ โดนรุ่นพี่ อายุ ๑๓ ปี เตะจนฟันร่วงเกือบหมดปาก จ.ศรีสะเกษ คุณพ่อน้องกำลังเดินทางจาก กทม. กลับไปดำเนินการ เบื้องต้นทราบว่าน้องนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แล้วเดินมาเตะ ต่อไปน้องจะใช้ชีวิตยังไง ที่สำคัญคือ สภาพจิตน้องและพ่อแม่ กฎหมายเด็กและเยาวชนอีกแล้วนะ” หลังโพสต์ข้อความได้ไม่นาน ได้มีชาวเน็ตแห่เข้ามากดไลค์กดแชร์ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ ๓๐ ม.ค. ๒๕๖๗ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ไปพบกับ น.ส.กรรณิการ์ อายุ ๓๐ ปี พร้อมกับ ด.ช.บอล (นามสมมติ) อายุ ๑๑ ขวบ ลูกชาย ซึ่งเป็นบุคคลในภาพ และเป็นผู้เสียหายจากเหตุดังกล่าว ได้เดินทางมาที่ สภ.โนนคูณ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายกันกับคู่กรณี ซึ่งมี น.ส.มุทิตา อายุ ๒๙ ปี แม่ของ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ ๑๓ ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมญาติมาร่วมรับฟังและเพื่อเป็นสักขีพยานกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งเบื้องต้นการเจรจาในรอบแรกไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายของผู้เสียหายจึงลุกเดินออกจากห้องไกล่เกลี่ย เนื่องจากไม่พอใจด.ช.บอล ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๘ ม.ค. ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. ที่บริเวณศาลากลางหมู่บ้านโป่ง ต.บก อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ขณะกำลังเล่นปาขวด โดยใช้รองเท้าแตะปาขวดที่ตั้งไว้ให้ล้มลงอยู่นั้น ตนได้นั่งอยู่ฝั่งด้านหลังที่ตั้งขวด หลัง ด.ช.บอย ผู้ก่อเหตุ ปารองเท้ามาใส่ขวดเสร็จแล้ว ได้เดินมาเตะเข้าที่ปากตนอย่างแรงจนล้มลงกับพื้น เป็นเหตุให้ฟันร่วง ๔ ซี่ น.ส.กรรณิการ์  อายุ ๓๐ ปี แม่ของ ด.ช.บอล เล่าว่า ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนได้พาลูกไปพบแพทย์ที่คลินิกทำฟัน เพื่อสอบถามราคาค่ารักษาอาการเบื้องต้น ทราบว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งค่าทำฟันใหม่ ค่าทำกระดูกเทียม และค่ารักษาอื่นๆ อยู่ที่ราคา ๔๐๐,๐๐๐ บาท และค่าทำขวัญอีก ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่ทางผู้ก่อเหตุได้ต่อรองขอจ่ายค่าทำขวัญเพียงแค่ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช่จ่ายอย่างอื่นจะทยอยจ่ายให้ อีกทั้งทางผู้ก่อเหตุก็เสนอมาอีกว่า จะพาลูกตนไปหาหมอและเลือกคลินิกเอง ตนจึงรู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกเสียใจ ที่ทวงความยุติธรรมให้ลูกไม่ได้ ลูกก็จะเป็นปมในใจแบบนี้ตลอดไป ถ้าผู้ก่อเหตุไม่ชดใช้ตามที่ผู้เสียหายต้องการ ก็ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้านป้าของ ด.ช.บอย (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเมื่อทางฝั่งผู้ก่อเหตุรู้ว่าเด็กทะเลาะและมีปัญหากัน ก็รู้สึกผิดและได้ไปกราบขอโทษคุณตา กับ คุณยาย ของน้องผู้เสียหายในทันที และขอดูแลช่วยเหลือในการพาไปหาหมอ และให้ค่ารถเดินทางไปหาหมออยู่เรื่อยๆ แต่ทำไมทางผู้เสียหาย ต้องนำเรื่องไปแจ้งเพจข่าวต่างๆ ให้มาโจมตีคอมเมนต์กันอย่างสนุกสนาน ทำให้น้องผู้ก่อเหตุรู้สึกเสียใจ ไม่กล้าสู้หน้าคน เรื่องค่าเสียหายค่าทำขวัญ ที่น้องผู้เสียหายแจ้งมานั้น ทางเราก็รับที่จะพาน้องไปพบแพทย์และเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามเงื่อนไข แต่ในส่วนของเรื่องค่าทำขวัญ ได้มีการต่อรองขอลดลงมาอีกให้เหลือ ๓๐,๐๐๐ บาท ได้ไหม เพราะทางเราก็ไม่มีเงิน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษา จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท นั้น ยังคงเดิม และจะจ่ายตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายก็เป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย แต่ทางแม่ของน้องผู้เสียหายยังไม่ยอมลดให้ เลยสรุปกันไม่ได้ อยากฝากไปยังทางด้านของผู้เสียหาย ให้เห็นใจเราด้วย และฝากถึงเพจข่าวต่างๆ ให้แก้ไขข้อมูลและลบออกให้ด้วย เพราะตอนนี้ทางน้องผู้ก่อเหตุและครอบครัวอยู่ยากมากต่อมา ทั้งคู่ได้กลับขึ้นมายังห้องไกล่เกลี่ยเพื่อเจรจาตกลงค่าเสียหายกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ทางด้านของผู้ก่อเหตุ ยินดีเพิ่มค่าทำขวัญให้อีก จำนวน ๕,๐๐๐ บาท รวมเป็นค่าทำขวัญ ๓๕,๐๐๐ บาท และค่ารักษาฟันยังคงเดิมที่ ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยจะมีการจ่ายตามเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงร่วมกันจนกว่าจะครบตามจำนวน โดยในวันนี้ทางผู้ก่อเหตุได้มอบเงินสด จำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท เป็นค่าทำขวัญ ต่อหน้าสักขีพยานทั้งตำรวจ คณะครู ผู้ใหญ่บ้าน พระสงฆ์ และญาติๆ ของทั้งสองฝ่าย เป็นที่พอใจทุกฝ่าย จากนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน