Saturday, 28 December 2024

ศธ. กำชับสถานศึกษารับมือ PM ๒.๕ เข้มสวมหน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง

ศธ. ห่วงสุขภาพนักเรียน-ครู กำชับสถานศึกษารับมือ PM ๒.๕ หลังพุ่งสูงหลายพื้นที่ เข้มสวมหน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ มีรายงานว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีว่าการศธ.) มีความห่วงใยต่อสุขภาพอนามัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากข้อมูลของศูนย์สื่อสารการแก้ไขคุณภาพอากาศ (ศกพ.) แจ้งว่าอัตราการระบายอากาศใน กทม. มีแนวโน้มที่จะลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ จึงทำให้ฝุ่นละออง PM ๒.๕ สูงขึ้นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกหนังสือกำชับ มาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ โดยเน้นย้ำให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัด”ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นละออง PM ๒.๕ มีความรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่ง ศธ. ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด และเข้าใจถึงความห่วงใยของผู้ปกครองที่ไม่อยากให้ลูกหลานทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เข้าแถว เล่นกีฬาในพื้นที่เปิดโล่ง เพื่อปกป้องเด็กๆ จากพิษภัยของฝุ่นละออง PM ๒.๕ ให้ได้มากที่สุดวันนี้จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ศธ. เตรียมความพร้อมในการรับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM ๒.๕ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM ๒.๕ ลดการทำกิจกรรมนอกอาคาร งดการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยสามารถพิจารณาปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม” รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวทั้งนี้ ผลกระทบทางสุขภาพของฝุ่น PM ๒.๕ ที่เกินมาตรฐาน มีทั้งระยะสั้น เช่น แสบตา คันตา น้ำตาไหล คัดจมูก มีน้ำมูก แสบจมูก แสบคอ ไอแห้ง คันตามร่างกาย รวมถึงอาจมีอาการในระดับรุนแรงถึงขั้นแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด เหนื่อยง่าย ส่วนระยะยาว จะส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จะมีการรับสัมผัสเร็วกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นสถานศึกษาจึงต้องติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM ๒.๕ อยู่เสมอ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย เพื่อขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมตามความต้องการของพื้นที่ได้ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารการรายงานคุณภาพอากาศ การคาดการณ์คุณภาพอากาศ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air๔Thai.(ติดตาม ข่าวการศึกษา ทั้งหมดที่นี่)