Wednesday, 20 November 2024

“อนุสรณ์” เห็นใจก้าวไกล แต่แนะ อย่าดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องการเมืองอีก

“อนุสรณ์” บอก เห็นใจและเข้าใจ “พรรคก้าวไกล” คิดนโยบายและนำเสนอเรื่องประชาธิปไตย แต่อย่าดึงสถาบันเกี่ยวข้องการเมืองอีก หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แก้ไข-ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ เป็นการล้มล้างการปกครองวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย นโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครอง ว่า จากคำวินิจฉัยแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ห้ามยกเลิกมาตรา ๑๑๒ และห้ามแก้ไขโดยมิใช่กระบวนการนิติบัญญัติปกติ ถือเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกพรรคการเมืองว่า ถ้าจะทำกฎหมายยกเลิกมาตรา ๑๑๒ หรือแก้ไขโดยมิใช่กระบวนการปกติไม่สามารถทำได้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และไม่ควรแตะต้องสถาบันในทางหนึ่งทางใด ซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นการบ่อนเซาะสถาบันและล้มล้างการปกครอง นายอนุสรณ์ ระบุต่อไป เราเข้าใจว่าพรรคการเมืองมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอนโยบาย แต่เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยแล้ว การออกนโยบายเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงด้วยมาตรา ๑๑๒ จะไม่สามารถทำได้ และทุกพรรคการเมืองที่จะคิดนโยบายต้องไปศึกษาตีความคำวินิจฉัยให้ชัดเจน เพื่อให้การทำนโยบายชอบด้วยกฎหมาย “เราเห็นใจและเข้าใจพรรคก้าวไกลที่คิดนโยบายและนำเสนอเรื่องประชาธิปไตย แต่การดำเนินการในประเด็นดังกล่าวหลังจากนี้จะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การคิดเสนอนโยบายเพื่อการเลือกตั้งในทุกระดับในอนาคตต้องไปเสนอเรื่องอื่น อย่าดึงสถาบันฯ มาเกี่ยวข้องกับการเมืองอีก”อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง“พิธา-ก้าวไกล” ไม่รอด ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด แก้ ม.๑๑๒ ล้มล้างการปกครอง (คลิป)เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ “พิธา-ก้าวไกล” ล้มล้างการปกครอง (คลิป)ก้าวไกล ไร้เจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ชี้ คำวินิจฉัยกระทบประชาธิปไตย-สิทธิเสรีภาพประชาชน (คลิป)ธีรยุทธ ขอเวลาทบทวนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เผย กกต. เคยชี้นโยบายเป็นไปตามกฎหมาย