Thursday, 19 December 2024

ศาลยกฟ้องคดีสัมปทานขุดเจาะสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย เหตุชอบด้วยกฎหมาย

ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้องคดีให้สัมปทานขุดเจาะ สำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ท้องทะเลอ่าวไทย ชี้รัฐบาลดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว วันที่ ๓๑ ม.ค. ๒๕๖๗ ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม ๓๐๙ คน ยื่นฟ้อง กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, คณะรัฐมนตรี, คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ร่วมกันเห็นชอบโครงการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือมีส่วนร่วมของชาวบ้านที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียก่อน เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งให้มีการเพิกถอนประทานบัตร หรือใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะ สำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งระงับการดำเนินกิจกรรมใดๆ สำหรับโครงการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด ให้เหตุผลว่า เมื่อพิจารณาจากคำชี้แจง และพยานหลักฐานในสำนวนคดีแล้ว มาตรฐาน และกระบวนการโดยทั่วไปของโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในบริเวณอ่าวไทยดังกล่าว เห็นว่า การดำเนินการโครงการนี้ไม่อาจถือเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการ หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (EHIA) และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งให้องค์การอิสระให้ความเห็นประกอบตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นโครงการหรือกิจการ ที่จะต้องจัดทำเพียงแค่การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากจะหมายถึงการใช้หลักการทางวิชาการในการศึกษาและคาดการณ์ผลกระทบ ที่อาจจะเกิดจากการดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ อย่างรอบด้าน (EIA) เท่านั้น ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๓๕ แล้ว การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรีให้สัมปทานโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในบริเวณอ่าวไทยพิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง.