เดินหน้าทุบเรตติ้ง เพราะความบู๊ต่อเนื่องสมชื่อละคร “มือปราบมหาอุตม์” ทางช่อง ๓ ทำคนดูสลับอารมณ์กันแทบไม่ทัน กับช่วงบู๊เดือดดาลสลับหวานปนขมงานนี้ นางเอกสาว “น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์” ผู้รับบท บุหลัน เล่าถึงละครและชีวิตช่วงนี้เริ่มจาก “เรื่องนี้ห่างหายจากละครบู๊ไปนานและเรื่องนี้ได้กลับมาบู๊อีกครั้ง เป็นพีเรียดด้วย เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน เป็นนักร้องอยู่ไนท์คลับ ต้องมีจริต มีพี่อุ๊ พี่หงษ์ ผู้จัดฯ คอยติวให้เลย มีความอยากได้ชม้อยชม้ายชายตาหน่อย ให้ดูเซ็กซี่ๆนิดๆหน่อยๆ ตัวตาลเองจะแนวแมนๆ พูดจาตรงๆ ห้าวๆ ตรงนี้พี่อุ๊ต้องปรับเยอะเพราะเราตีความละครพีเรียดจะต้องเสียงสวยๆ แต่ว่าพี่อุ๊บอกว่าเราเติบโตในเขาสมิง ต่อสู้ชีวิต ไม่ได้มีความสุขสบายเท่าไหร่ เป็นคนคิดยังไงพูดอย่างนั้น โต้ตอบไวๆ”ความเป็นนักร้องไนท์คลับ เสื้อผ้าหน้าผมเรื่องนี้เซ็กซี่ขนาดไหน? “อาจจะเน้นระยิบระยับ ซีนสวยๆ ๒ ซีน นอกจากนั้นมีอารมณ์ดราม่า คนจะได้เห็นพาร์ตนักร้องแค่อีพีแรกๆ หลังจากนั้นต่อสู้ แก้แค้น ความรักต่างๆ” สวยแค่ช่วงแรกเหรอ? “ประมาณนั้น อยู่ชุมโจรบ้าง อยู่ข้างนอกบ้าง ออกมาปลอมตัวบ้าง หลายๆคนเห็นทีเซอร์ เรามีปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วย”tt ttทุกคนจะรู้ตัวตนของตาลสวยและเซ็กซี่มาก หนุ่มๆแซวกันมั้ย? “ส่วนใหญ่พี่เกรท และพระเต้ยแซวค่ะเพราะเค้ารู้ว่าตาลเขิน ทุกคนมองตาลเป็นน้องชาย เป็นเพื่อนผู้ชายเพราะเราจะเป็นแนวแมนๆ จริตผู้หญิงไม่ค่อยมี เวลาเค้าเห็นเราเล่นละครแสดงบนเวทีเขาจะแซว จะขี้แกล้งมากกว่า ซีนที่ถ่ายไนท์คลับเป็นอะไรที่ยากเหมือนกัน เดี๋ยวเราสวย ร้องไห้ สักพักบู๊ในบาร์ ตอนที่ถ่ายละครเรื่องนี้ ตาลเล่นละครพร้อมกัน ๓ เรื่อง ซึ่งดราม่าทั้ง ๓ เรื่อง เป็นช่วงค่อนข้างดิ่งเหมือนกันในปีที่แล้วเพราะว่า ๗ วันไม่ได้เป็นน้ำตาลเลย เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนทั้ง ๓ เรื่อง เรื่องนี้เป็นบุหลัน ในอดีต เป็นกำไล ตอนเราเป็นเด็กเป็นเพื่อนรักกัน ๓ คน พี่เกรท พระเต้ย ตาล แต่มีเหตุให้เราพลัดพรากจากกัน เราเลยไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นกำไล ปกติตัวเองเป็นบุหลัน เป็นตัวละครที่มีความลับเยอะ อีกเรื่องพรหมลิขิต ตัวนั้นก็เล่นยากเป็นการพลิกเล่นร้ายครั้งแรกอีกเรื่องนึง รักได้หรือยัง เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เราไม่เคยเล่นบทนี้มาก่อนต้องรักลูก ลูกหายไปเราจะต้องรู้สึกยังไง มันหนักมาก ดราม่าจัดทั้ง ๓ เรื่อง ๗ วันและเป็นปีที่หนักมากๆ แล้วเราก็อยากจะทำให้ทุกเรื่องออกมาดีที่สุด ประดังประเด ปีที่แล้วอารมณ์ดิ่งเลยค่ะ”tt tt เราเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องกุมความลับฤกษ์พระเต้ยบวช? “ก็อนุโมทนาบุญครั้งนี้กับพระเต้ย การบวชครั้งนี้พระเต้ยเค้าตั้งใจมากๆ มีแพลนตั้งนานแล้ว เราพูดคุยในกองค่อนข้างบ่อย อย่างตอนพี่ไผ่บวชพระเต้ยก็ไปเป็นคนถือร่ม ซึ่งพี่ไผ่ พี่เกรท พูดตรงกันว่าบวชช่วงอายุ ๓๐ ขึ้นไปจะดี บวชตอนอายุ ๒๐ ต้นๆ เรียนจบบวชเลยยังเป็นวัยรุ่น ชีวิตยังปั่นป่วนอยู่ บางครั้งยังตัดอะไรไม่ค่อยได้ พออายุ ๓๐ อัป เราผ่านความเป็นความตาย ปลง เข้าใจชีวิตมากขึ้น สเต็ปชีวิตค่อนข้างเติบโต ดังนั้น บวชตอนนี้เป็นช่วงที่ดี ถ้าเราตั้งใจบวชให้พ่อแม่เราก็จะมีบุญส่ง ณ ตรงนั้น มีเวลาศึกษาพระธรรมเต็มที่”โมเมนต์ขลิบผมพระเต้ย? “พระเต้ยร้องไห้ตั้งแต่ช่วงขอขมาคุณพ่อคุณแม่ตายาย เราเข้าใจดีเราเห็นตั้งแต่สมัยพี่ไผ่บวช หนูมีจังหวะนึง เราขลิบผม ขอขมาเรียบร้อย พระเต้ยหันมาบอกหนูว่าเข้าใจแล้วทำไมพี่ไผ่บวชถึงร้องไห้ ณ เวลานั้น พี่ไผ่เป็นคนร้องไห้ยากมากนะ รู้จักกันเกือบ ๑๒ ปีแทบจะไม่ร้องไห้ให้หนูเห็นเลย ก็ถามพี่ไผ่ว่าตอนปลงผมคิดอะไรอยู่ เค้าบอกว่าทุกอย่างมันตีขึ้นมาหมด มันตีขึ้นมาเองแล้วมันหยุดไม่ได้ พอมาเห็นพระเต้ยก็เป็นแบบนั้น จะละทางโลกเข้าสู่ทางธรรม ตื้นตันใจและภูมิใจในตัวพระเต้ยมาก พระเต้ยเป็นคนตั้งใจ เล่นละครก็ตั้งใจ ใช้ชีวิตตั้งใจ เป็นเด็กดี ตาลเชื่อว่าเค้าศึกษาธรรมะน่าจะได้อะไรกลับมา”เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐถามถึงทริปไปดำน้ำกับไผ่-พาทิศ เหมือนตาลค้นพบความสุขของตัวเองแล้วใช่มั้ย? “ใช่ๆ ตาลไม่ได้ดำน้ำมา ๒ ปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ไปดำน้ำโดนน้ำดูดไป ๗๙ เมตร เป็นอะไรที่เรากลัวเหมือนกัน ตอนแรกตกลงดำไม่เกิน ๒๐ เมตร แต่พอลงไปเจอกระแสน้ำ เป็นร่องน้ำ มีตาลกับพี่ไผ่ ๒ คนที่หลุดไป ทีนี้เราได้เห็นความเป็นผู้นำของผู้ชายอีก เค้ามีสติมากและพาเราไปได้และทริปล่าสุดที่พาเราไปฟิลิปปินส์ มีพี่เกรทไปด้วย ทริปนี้พี่ไผ่หายไปเหมือนกัน แล้วหายไปคนเดียวด้วยเกือบ ๑๕ นาที กลุ่มหนูยังอยู่ด้วยกันเกาะกลุ่ม ซึ่งพี่ไผ่หายไป อยู่ดีๆน้ำมันเปลี่ยนและน้ำมันขุ่นทำให้หากันไม่เจอ สุดท้ายครูสอนดำน้ำตามมาจนเจอ พาว่ายมาหากัน”ตอนนั้นช่วง ๑๕ นาทีที่รอพี่ไผ่ ตาลรู้สึกยังไงบ้าง? “โหย หนูร้อนรนมากจะร้องไห้ กลัวเค้าจะหายไปไหน แต่ลึกๆแล้วเรามั่นใจว่าเค้าสามารถเอาตัวรอดได้ เวลาเกิดสถานการณ์คับขันเค้าค่อนข้างเป็นคนมีสติมากๆ คิดอะไรเป็นขั้นเป็นตอน คิดว่ายังไงเค้ากลับมาได้แต่กลับมาเร็วๆหน่อยเพราะ ๑๕ นาทีมันนานไป กระวนกระวาย”tt ttยิ่งทำให้เราห่วงกังวลมากขึ้นมั้ย? “ห่วงค่ะ เป็นความห่วงเรื่องความปลอดภัย ๑ และ ๒ เราติดต่อไม่ได้ หนูไม่ค่อยชอบอะไรที่ติดต่อไม่ได้เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าเป็นยังไง ไม่ได้กังวลเค้าจะนอกลู่นอกทาง ป่ามันกว้าง อันตรายร้อยแปด หลายสิ่งหลายอย่างเราเป็นห่วงความปลอดภัยของเค้า เพราะเค้าเป็นคนที่ทำอะไรทำจริงทำจัง เข้าป่าต้องเข้าให้ลึก ไปน้ำตกต้องดำลงไปใต้น้ำตก ต้องให้สุด ตรงนี้เป็นสิ่งที่เรากลัว ห่วงอะไรที่มันควบคุมไม่ได้”ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าคุยเรื่องการแต่งงานกันแล้ว? “คุยค่ะ น่าจะไม่นาน ๒-๓ ปีที่จะแต่ง ต้องรอดูเพราะมันมีหลายเหตุการณ์จริงๆ โชคดีหนูฝากไข่แล้วค่ะ คือสถานการณ์โควิดทำให้เราเอาเงินเก็บมาใช้ค่อนข้างเยอะ การแต่งงานของเราคือแต่งแล้วพร้อมมีลูกเลย ดังนั้นอาจจะต้องรออีกนิด ถ้าเรามีลูกเราอยากซัพพอร์ตเค้าในทุกๆอย่างที่เราทำได้ มีกำลัง มีเวลา ตอนนี้ที่กำลังแพลนเราจะทำยังไงมีเงินเข้ามาโดยที่เราไม่ต้องออกไปทำงานทุกวันได้ อยากมีอาชีพสำรอง ไม่ใช่แค่เป็นนักแสดงที่ต้องตื่นตี ๔ ตี ๕ ออกมาทำงาน แล้วหนูอยู่นิ่งไม่เป็น เห็นเงินออกมากกว่าเงินเข้าไม่ได้ ขนาดช่วงโควิด ขายอาหาร ทำสตูดิโอ เวลามันไม่มีคือไม่มีจริงๆ เราเห็นหลายๆคนประมาทในการวางแผนทางการเงินแล้วชีวิตมันไปต่อไม่ได้ มันลำบาก หนูไม่อยากอยู่สถานการณ์แบบนั้น ถามว่ามีการพูดคุยกันมั้ย พูดคุยกันอยู่แล้ว เราคบกันมานาน ๑๑ ปีแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณนี้เพราะตัวเค้าเองก็อายุ ๔๐ แล้ว”.