Wednesday, 20 November 2024

"ภูมิธรรม" พลิ้ว ปม เพื่อไทย แก้ ม.๑๑๒ เห็นใจ "ก้าวไกล" เคยชะตาเดียวกัน

“ภูมิธรรม” พลิ้ว ปม เพื่อไทย แก้ ม.๑๑๒ ลั่น เห็นใจ “ก้าวไกล” เคยชะตาเดียวกัน ปัดตอบ พรรคเคยชู หาเสียง แก้ ม.๑๑๒ บอก เป็นเรื่องต้องระวัง ไม่เช่นนั้นจะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ให้สังคม เหตุมีทั้งกลุ่มเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย   เมื่อเวลา ๑๒.๑๐ น. วันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ หรือไม่ว่า เราพูดอยู่เสมอว่า เรื่องมาตรา ๑๑๒ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และการจะกระทำเรื่องนี้ได้ ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ให้เรามารับปากว่า จะไปแก้ไขมาตรา ๑๑๒ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจน ฉะนั้น หากเราจะแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ก็มีเรื่องสำคัญจำนวนมาก ทั้งในเรื่องชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน ความยากลำบาก เศรษฐกิจ ยาเสพติด สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราทำกันได้เต็มที่ ในส่วนของพี่น้องประชาชนและพรรคการเมืองทุกฝ่าย ย้ำว่า เรื่องนโยบายที่เป็นการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนเราสามารถทำได้หมด ทำได้เต็มที่ ส่วนเรื่องที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่เป็นกลางทางการเมืองนั้น เราก็ควรให้สถาบันได้เป็นกลางอย่างแท้จริง และเราไม่ควรต้องมาพิจารณาเช่นนี้“จริงๆ ผมเห็นใจพรรคก้าวไกล เพราะเคยอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญปัญหาในการทำงานพรรคการเมืองต่างๆ นั้น ต้องอยู่ที่จุดสมดุล ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แนวทางในการพิจารณาการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการต่างๆ จุดสมดุล คือ ในรัฐประชาธิปไตยทุกที่เขายอมรับความแตกต่าง สงวนความแตกต่างได้ และความแตกต่างที่อยู่ในรูปแบบนี้เป็นความแตกต่างที่มีอิสระของตัวเอง เราต้องเคารพทั้งหมด และต้องหาจุดสมดุลที่เพียงพอ ไม่มีความคิดใครเก่งที่สุด ไม่มีความคิดใครดีที่สุด ไม่มีความคิดใครเป็นประชาธิปไตยกว่ากัน วันนี้แม้เขาจะมี สส.มาคนเดียว สองคน สิบคน เขาล้วนเป็นตัวเป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือกเขามาทั้งนั้น ฉะนั้น การคำนึงถึงหลายเรื่องที่จะไปเกี่ยวพันกับชีวิตพี่น้องประชาชน เกี่ยวข้องกับโครงสร้างกับสถาบันทางการเมือง เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ล้วนแต่ต้องคำนึงถึงความเห็นและต้องเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างกัน หากเป็นเช่นนี้การทำงานทางการเมือง เราก็จะเข้าใจความต้องการของคนทุกส่วน คนทุกกลุ่มได้ดีกว่านี้ สามารถร่วมมือกันเดินทางไปในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศได้สูงสุดกว่านี้” นายภูมิธรรม กล่าว…เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เคยหาเสียงเรื่องการแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราระมัดระวังเรื่องมาตรา ๑๑๒ แม้กระทั่งมีตัวแทนมายื่นหนังสือกับเรา ให้เรารับ เราก็ชี้แจงไปว่าเรื่องนี้เราเห็นเช่นนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง และปฏิบัติอย่างเหมาะสม หรือแม้กระทั่งที่มีกลุ่มเยาวชนมายื่นหนังสือกับเรา เราก็ได้แถลงแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าตัดสินใจไปเช่นไรก็มีผลกระทบที่คนส่วนหนึ่งเห็นด้วย และคนส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย และหากเป็นเช่นนี้ก็จะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ให้กับสังคม เราจึงบอกว่า จะต้องทำให้เกิดฉันทามติ พูดคุยกันอย่างเรียบร้อย หากคิดว่า สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และคิดว่า เป็นเรื่องที่ต้องไปตัดสินใจ ดังนั้น หากเราบอกว่า รักประชาชนก็ต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง