รอง ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ เผยผลการศึกษา เรื่องการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ขอนแก่น พบว่าเหมาะที่สุดในการตั้งท่าเรือบก (Dry Port) ที่สุดในภาคอีสาน โดยพื้นที่ที่เหมาะสม คือ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง เพราะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟโนนพยอม เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๖๗ นายศิริวัฒน์ พินิจพาณิชย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประกอบการทดสอบความสนใจนักลงทุน โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ให้เกิดขึ้นในเชิงพาณิชย์ ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และสถาบันชุณหะวันเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน ได้กำหนดจัดการประชุมขึ้นโดยมีนักวิชาการ และนักธุรกิจในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมการประชุมจำนวนมากtt ttนายอภิเสต พงษ์สุวรรณ รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และการพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า การศึกษาในเรื่องของการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ขอนแก่น ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งขณะนี้เข้าสู่การแลกเปลี่ยนและรับฟังข้อเสนอแนะในกลุ่มภาคธุรกิจและเชิงพาณิชย์ โดยจะทำการประชุมร่วมกันทั้งที่ขอนแก่นและกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและผลการวิจัยที่ชัดเจนเสนอต่อที่ประชุมการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเสนอต่อกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน โดยยอมรับว่าขอนแก่นนั้นมีความเหมาะสมอย่างมากในการก่อตั้ง โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟโนนพยอม ที่จะเชื่อมต่อกับการขนส่งระบบรางได้อย่างครอบคลุม ซึ่งการดำเนินงานนั้นจะต้องประสานงานร่วมการรถไฟแห่งประเทศไทยในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดtt tt”ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูการค้าที่สำคัญของไทย มีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง ๗.๗ ล้านตู้ต่อปี และในปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังประสบปัญหาความแออัดในการขนส่งสินค้า ทำให้เสียเวลาในการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามีการเรียกเก็บค่าหัวรถลากเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือบกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือ ลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งบริเวณท่าเรือ พร้อมทั้งรองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการโดยเฉพาะ ซึ่งผลการศึกษาด้านเกณฑ์การคัดเลือกจังหวัดพบว่า ขอนแก่นมีความเหมาะสมในการจัดตั้งท่าเรือบกตาหลักเกณฑ์ทั้งหมดในพื้นที่ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟโนนพยอมได้ทันที” รอง ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยฯ กล่าวtt ttนายอภิเสต กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการรับฟังภาคธุรกิจเอกชน ตามรูปแบบที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยนำเสนอ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเด่นชัดว่า จะเป็นไปในรูปแบบใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งการพัฒนาพื้นที่ การสร้างมูลค่าที่เกิดจากการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมไปถึงระบบการเชื่อมต่อการขนส่งทางบก และทางราง ทั้งระบบรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นtt ttรอง ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามในการศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเรือบกขอนแก่น โดยคณะทำงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอีสาน ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้นั้นจะศึกษาความเป็นไปได้ในรูปแบบการลงพื้นที่เหมาะสมกับ กทท. ทั้งในส่วนของรูปแบบตาม พระราชบัญญัติร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ PPP, รูปแบบการลงทุนร่วมกันบริษัทเอกชน หรือ Joint Venture, รูปแบบใช้เงินทุนของ กทท. หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. ปี ๒๕๖๗ นี้.
การท่าเรือฯ เผยผลศึกษาพบ อ.น้ำพอง ขอนแก่น เหมาะจะตั้งท่าเรือบกที่สุดในอีสาน
Related posts