ผลวิจัยจากวารสาร BMJ Open ที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างนับแสนคนในเกาหลีใต้ ชี้ว่าการรับประทานกิมจิทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคอ้วนได้กิมจิ เครื่องเคียงยอดนิยมของชาวเกาหลี ถูกพูดถึงอย่างมากอีกครั้ง หลังจากวารสาร BMJ Open ที่เก็บข้อมูลจากการตอบแบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างชาวเกาหลีใต้อายุระหว่าง ๔๐-๖๙ ปี จำนวน ๑๑๕,๗๒๖ คน พบว่า การรับประทานกิมจิทุกวันจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายได้ และยังช่วยทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ในการลดความอ้วนได้ด้วย เนื่องจากการรับประทานกิมจิจะช่วยเพิ่มระดับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสำไส้โดยในผู้ชายที่รับประทานกิมจิ ๑-๓ ครั้งต่อวัน จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนลดลงได้ราว ๑๑-๑๒ เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายที่ทานกิมจิน้อยกว่า ๑ ครั้งต่อวันtt ttในขณะที่กลุ่มผู้ชายที่มีการรับประทานกิมจิผักกาดขาวมากกว่า ๓ ครั้งต่อวัน จะมีปริมาณไขมันส่วนเกินตามหน้าท้อง และพุง น้อยกว่า ๑๐ เปอร์เซ็นต์ และความเสี่ยงจะต่ำกว่า ๘ เปอร์เซ็นต์ ในผู้หญิงที่รับประทานกิมจิชนิดเดียวกันส่วนผู้ชาย และผู้หญิง ที่รับประทานกิมจิที่ทำจากหัวแรดิช จะสามารถลดความเสี่ยงของการสะสมไขมันบริเวณช่วงกลางลำตัว และหน้าท้อง ได้ราว ๙ เปอร์เซ็นต์tt ttอย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จากการเก็บข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การรับประทานกิมจิมากกว่า ๓ มื้อต่อวัน ไม่ได้มีประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาจจะมีแนวโน้มว่าคนที่รับประทานกิมจิเกิน ๓ มื้อ อาจจะรับประทานอาหารประเภทอื่นมากกว่า ๓ มื้อด้วย ซึ่งอาจจะยิ่งทำให้เป็นโรคอ้วนได้ทั้งนี้ กิมจิ สามารถทำได้จากผักหลายชนิด ทั้งผักกาดขาว หัวแรดิช และหอมหัวใหญ่ โดยมีการเติมเครื่องปรุงรสเผ็ดอย่าง พริกไทยแดง กระเทียม และขิงลงไปด้วยโดยก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาครั้งก่อนที่เคยระบุว่า แบคทีเรียดีในกิมจิมีประโยชน์ต่อลำไส้มาก และจะมีผลต่อเรื่องน้ำหนักตัวด้วยอย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้ทิ้งท้ายแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับความเค็มในกิมจิ พร้อมเตือนให้ผู้ที่ปรุงกิมจิใส่เกลือในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย.ที่มา : skynewsคลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ กิมจิ
Related posts