แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหิมหนัก ปลัด กระทรวงมหาดไทยยังโดนปลอมเสียง ปลอมไลน์ ลวง นอภ.กระบุรีให้โอนเงินกว่าครึ่งแสน แต่ นอภ.รู้ทันบันทึกเสียงโร่แจ้งตำรวจทันที ขณะที่ ปลัด กระทรวงมหาดไทยยืนยันไม่มีการยืมเงินหรือขอให้โอนเงินอย่างแน่นอน เตือนไม่ควรรับสายแล้วพูดคนเดียวนานๆ เพราะมิจฉาชีพบันทึกเสียงแล้วใช้ AI ปลอมเสียงแบบ “วอยซ์โคลน” หลอกญาติพี่น้องคนสนิทได้ แนะให้ถามข้อมูลเชิงลึกกับคนปลายสายให้ถี่ถ้วนจนแน่ใจก่อนโอนเงินช่วยเหลือมิจฉาชีพที่มาในรูปแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังโทร.หลอกลวงประชาชนไม่หยุดหย่อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจัดการได้เด็ดขาด ล่าสุด เมื่อวันที่ ๓ ก.พ. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขอเตือนประชาชน รวมถึงข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ระวังภัยสังคมรูปแบบใหม่ กลุ่มมิจฉาชีพจะแอบอ้าง ว่า เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้วยการโทรศัพท์ไป เพื่อขอให้โอนเงิน แล้วจะใช้ LINE ที่มีโปรไฟล์ เป็นรูปปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมส่งเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินไป หากใครหลงเชื่อ ไม่ตรวจสอบให้ ถี่ถ้วนอาจจะต้องหลงกลสูญเสียเงินนายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ในกรณีนี้เกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ ๒ ก.พ. ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายณรงค์ชัย สกุลอ่อน นอภ.กระบุรี จ.ระนอง ทางหมายเลขโทรศัพท์ประจำตำแหน่งนายอำเภอ พร้อมทั้งส่งข้อความผ่านทางไลน์ ใช้รูป โปรไฟล์ของตนลวงให้โอนเงิน ปลายสายได้แจ้งว่า ให้ช่วยโอนเงินค่าซื้อสินค้าจำนวนเงิน ๘๖,๐๐๐ บาท อ้างว่า แอปพลิเคชันธนาคารของตัวเองไม่สามารถใช้การได้ และจะให้เลขานุการของนายอำเภอโอนเงินคืนภายหลัง พร้อมให้เลขบัญชีธนาคาร แล้วโทร. มาติดตามสอบถามเป็นระยะๆว่า ได้โอนเงินไปให้หรือยังในเวลาใกล้เคียงกัน นายอำเภอกระบุรีได้พิมพ์ ข้อความพูดคุยเพื่อประวิงเวลา พร้อมเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรกระบุรี และทดลองโอนเงินจำนวน ๑ บาท เพื่อเป็นหลักฐานไว้ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ลงบันทึกประจำวันอยู่นั้น บุคคลดังกล่าวได้ใช้การสนทนาแบบวิดีโอ (Video Call) ทางไลน์ แต่ไม่ยอมเปิดกล้องแสดงตน ยิ่งทำให้มั่นใจ ว่า เป็นมิจฉาชีพแน่นอน จึงแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายนายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาประชาชนหลายท่านอาจเคยได้รับสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน อ้างว่ามีพัสดุตกค้าง หรือต้องโอนเงินก่อนเพื่อสมัครเป็นสมาชิก หรืออื่นๆ ทั้งที่ภาครัฐและสื่อมวลชนได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสาร ประกาศเตือนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊ง มิจฉาชีพ ทว่าปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนารูปแบบกลฉ้อฉลกลเม็ดใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่หลายๆคนอาจคาดไม่ถึงว่ามีด้วยหรือ ผู้เสียหายได้รับสายโทรศัพท์ที่โทร.มาแล้วปลายสายไม่พูด ปล่อยให้เราพูดอยู่คนเดียวไปเรื่อยๆแล้ววางสายไป หลายคนคงคิดว่าเป็นเพราะสัญญาณไม่ดี ความจริงแล้วท่านกำลังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่กำลังบันทึกเสียงสนทนาอยู่ แล้วนำข้อมูลเสียงที่ได้ไปแปลงเสียงโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI แปลงเสียงเพื่อใช้ นำไปโทร.หาคนสนิทของเรา และหลอกลวงเอาเงิน การใช้ AI สร้างเสียงหรือการปลอมแปลงเสียง เรียกว่า “Voice Clone” (วอยซ์โคลน) ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพ และพบว่าเสียงจาก AI มีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ เมื่อมิจฉาชีพสืบค้นมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ จะโทร.ไปหาญาติ คนใกล้ชิด เพื่อนร่วมงานของเจ้าของเสียง สุ่มโทร.หาคนที่เป็นเพื่อนในโซเชียลมีเดีย มักจะสร้างสถานการณ์ว่ากำลังตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินด่วน ทำให้เราสงสาร แล้วรีบโอนเงินโดยไม่ทันยั้งคิด เช่น มีเหตุต้องใช้เงินด่วน ประสบอุบัติเหตุ เข้าโรงพยาบาล หรือแอปธนาคารขัดข้อง“ขอย้ำเตือนให้ข้าราชการ ประชาชน และสังคมออนไลน์ โปรดระมัดระวังการติดต่อสื่อสาร ทางสื่อออนไลน์ แม้บุคคลนั้นเรารู้จักมักคุ้น ควรพิถีพิถัน ช่างสังเกต หากให้โอนเงิน ให้กดลิงก์ใดๆทาง SMS อย่าหลงเชื่อเผลอไปกดเป็นอันขาด ควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจให้ความช่วยเหลือโอนเงิน หากสงสัยหรือไม่แน่ใจอย่าดำเนินการใดๆเป็นอันขาด ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าปลายสายเป็นคนที่รู้จักจริงหรือไม่ เพราะจะเป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นเคย หรืออ้างว่าเปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนเบอร์แล้วแต่เสียงคล้ายคลึงมาก วิธีการตรวจสอบง่ายๆ เบื้องต้นคือ สอบถามข้อมูลเชิงลึกของคนปลายสาย เช่น ทำงานที่ไหน เกิดวันอะไร เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เป็นต้น แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับ พร้อมตั้งสติ รีบโทรศัพท์กลับไปหาคนที่ถูกอ้างชื่อโทร.มาที่เบอร์ของเราบันทึกไว้ ไม่ใช่เบอร์ที่เพิ่งโทร.มา แม้จะเสียเวลาแต่ดีกว่าเสียเงิน ให้กับมิจฉาชีพแน่นอน” ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวนายสุทธิพงษ์กล่าวว่า เรื่องการทำธุรกรรมทาง การเงินทุกชนิด สิ่งสำคัญ ต้องฉุกคิด ไม่ควรโอนเงิน เด็ดขาด หากชื่อคนที่ขอเงิน หรือปลายสายกับชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน แบบนี้คิดไว้เลยว่า มิจฉาชีพแน่นอน และหากท่านตกเป็นเหยื่อแล้วควรแจ้งความทันที และขอยืนยันว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่มี การยืมเงิน หรือขอให้โอนเงินอย่างแน่นอน หากพี่น้อง ประชาชน หรือเพื่อนข้าราชการ ได้รับโทรศัพท์อ้างว่า เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยขอยืมเงิน หรือมีไลน์ มาขอยืมเงินโดยใช้รูปปลัดกระทรวงมหาดไทย แสดงว่า ท่านกำลังพบกับมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อเป็นอันขาดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
