ไม่สนใจเสียงติฉินนินทาว่า เป็นนายกฯที่ขยันเดินทางไปต่าง ประเทศมากกว่าอยู่เมืองไทยล่าสุด นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน บินไปลงนามข้อตกลง เขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ศรีลังกา เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยไปตลาดศรีลังกาให้เต็มคาราเบลแต่ไทยยังเสียเปรียบเวียดนาม ซึ่งมีข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีสมาชิก ๒๗ ประเทศอยู่ในมือ!!ทำให้เวียดนามมีแต้มต่อเหนือกว่าไทยครึ่งช่วงตัวนี่จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่นายกฯเศรษฐาต้องใส่เกียร์ห้าเดินหน้าเจรจาทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มอียู (ซึ่งหยุดชะงักมา ๑๐ ปี) ให้สำเร็จโดยเร็ว!!หวังจะปั๊มจีดีพีให้โตขึ้นอีก ๑.๒ เปอร์เซ็นต์“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่า รัฐบาลไทยได้รื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอ กับกลุ่มอียูมาแล้ว ๒ รอบเดือนมิถุนายนจะเปิดโต๊ะเจรจารอบ ๓ ที่กรุงบรัสเซลส์และเดือนตุลาคมจะเจรจาต่อรอบที่ ๔ ที่กรุงเทพมหานครยังต้องปลํ้าฟัดอีกไม่ตํ่ากว่า ๖-๗ รอบ จึงจะบรรลุข้อตกลง เพื่อให้ปิดจ๊อบปลายปีหน้า ๒๕๖๘ เป็นอย่างเร็วแต่ช่วงนี้ไทยต้องยอมเสียเปรียบ “สิงคโปร์” กับ “เวียดนาม” ซึ่งทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มอียูก่อนหน้าเราหลายปียังมีมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังขมีขมันเจรจาเอฟทีเอกับกลุ่มอียู กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่เหมือนกัน“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า ประเทศไทยขยับตัวช้ากว่าคู่แข่งหลายปีทำให้ นายกฯเศรษฐา ต้องลุยเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆที่ค้างลำกล้องอยู่อีกบานตะไทเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันสินค้าไทยไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งอย่างที่ผ่านมาเพราะถ้า “เบอร์หนึ่ง” ไปเจรจาเองย่อมมีนํ้าหนักกว่า “เบอร์สอง” หรือ “เบอร์สาม” ไปเจรจาแทนโลกยุคใหม่ใครออกตัวช้าไม่ทันกินผู้นำรัฐบาลทุกประเทศต้องแข่งขันแย่งตลาดขายสินค้ากันสุดลิ่มทิ่มประตู“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า ปีใหม่ ๒๕๖๗ ตลาดสินค้าส่งออกไทยจะกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจนเช่นเดียวกับตลาดท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงเศรษฐกิจไทยก็กำลังดีวันดีคืนล่าสุด เดือนมกราคม เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยแล้ว ๒.๗ ล้านคนคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนลูกค้าขาประจำกลับมาเที่ยวบ้านเราไม่ตํ่ากว่า ๘ ล้านคนจะดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุเป้า ๓๕ ล้านคนธุรกิจท่องเที่ยวที่เหี่ยวเป็นถุงตะเคียวมา ๔ ปี จะฟื้นกลับมาเต็มตัวปีที่แล้ว ๒๕๖๖ นักท่องเที่ยวต่าง ชาติสะเวิ้ปเข้าเมืองไทย ๒๘ ล้านคนถ้าปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ ๓๕ ล้านคน เท่ากับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอีก ๗ ล้านคนหรือเพิ่มขึ้นอีก ๒๕ เปอร์เซ็นต์สบายใจหายห่วงซะทีนะโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
Related posts