อัปเดตประชากรประเทศไทยล่าสุดเมื่อสิ้นปี ๒๕๖๖ มีจำนวนประชากรสัญชาติไทยตามหลักฐานทะเบียนราษฎรรวมทั้งสิ้น ๖๕,๐๖๑,๑๙๐ คนข้อมูลสำนักข่าวอิศราระบุว่า ยังมีประชากรที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทยปักหลักพำนักอาศัยในบ้านเราอีก ๙๙๑,๔๒๕ คนเมื่อรวมชาวต่างชาติเข้าไปด้วย ประเทศไทยจะมีจำนวนประชากรทั้งสิ้น ๖๖,๐๕๒,๖๑๕ คนเป็นเพศหญิง ๓๕.๓๕ ล้านคน เป็น เพศชาย ๓๑.๗๐ ล้านคนผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ๓.๖๕ ล้านคน!“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าปีหน้า ๒๕๖๘ จะเป็นปีแรกที่ประชากรไทยจะตํ่ากว่า ๖๖ ล้านคนถ้าเทียบสถิติย้อนหลัง ๕ ปี “ปี ๒๕๖๒” มีประชากรทั่วประเทศ ๖๖,๕๕๘,๙๓๕ คนประชากรไทยลดลงไป ๕๐๖,๓๒๐ คนเฉลี่ยคนเกิดน้อยกว่าคนตายปีละ ๑๐๐,๐๐๐ คน“แม่ลูกจันทร์” เช็กประชากรกรุงเทพฯล่าสุด ๕,๔๗๑,๕๘๘ คนเท่ากับในช่วง ๕ ปีหลัง ประชากร กรุงเทพฯ ลดลงไปถึง ๑๙๔,๖๗๖ คนแสดงว่าความเจริญได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างที่ผ่านมาทำให้คนที่เคยอาศัยในกรุงเทพฯ ไหลออกไปต่างจังหวัดมากกว่าคนต่างจังหวัดย้ายมาอยู่อาศัยใน กทม.จังหวัดที่ประชากรมากอันดับ ๒ คือ “นครราชสีมา” ๒,๖๒๕,๗๙๔ คนถัดไปเป็น “จังหวัดอุบลราชธานี” ๑,๘๖๙,๖๐๘ คนจังหวัดเชียงใหม่ ๑,๗๙๗,๐๗๕ คน, ขอนแก่น ๑,๗๗๙,๓๗๓ คนชลบุรี ๑,๖๑๘,๐๖๖ คน, อุดรธานี ๑,๕๕๘,๕๒๘ คน, บุรีรัมย์ ๑,๕๗๓,๒๓๐ คน และ นครศรีธรรมราช ๑,๕๔๐,๙๕๓ คนนี่คือ “อันดับท็อปเท็น” จังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทยแต่ถ้าดูให้ดีๆ เกือบทุกจังหวัดประชากรมีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า สาเหตุที่ประชากรไทยถดถอยอย่างชัดเจนเพราะจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงทุกปีและอัตราการเกิดเด็กไทยต่ำกว่า ๕ แสนคนต่อปีเมื่อสัดส่วนประชากรเด็กลดลง ขณะที่สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นสวนทางกันอีกไม่นานรัฐบาลจะต้องแบกภาระจ่ายเบี้ยยังชีพคนชราจนริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟ“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า สถานการณ์ประชากรวันนี้ ตรงข้ามกับเมื่อ ๕๐ ปี ที่แล้วอย่างสิ้นเชิงเพราะเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว อัตราเกิดของเด็กไทยเพิ่มขึ้นปีละ ๑ ล้านคนโดยเฉพาะปี ๒๕๑๔ ทำสถิติสูงสุดคือมีเด็กไทยเกิดใหม่ถึง ๑.๒๒ ล้านคนนี่คือเหตุผลที่รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ต้องปลุกระดมให้คนไทยช่วยกันปั๊มลูกเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีประชากรวัยทำงานทดแทนประชากรสูงอายุที่เต็มบ้านเต็มเมืองแต่สภาพสังคมไทย และสภาพเศรษฐกิจยุคนี้ ไม่เอื้ออำนวยให้คนไทยอยากมีลูกหลายคนเพราะมีลูกหนึ่งคนต้องจนไปอีก ๒๐ ปีปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
Related posts