วัดพระธาตุพนมยังวุ่น ไวยาวัจกรบุกร้อง ป.ป.ช. ขอความเป็นธรรม ถูกสั่งปลดโดยไม่มีมูลความผิด ปมยักยอกเงินวัด ชี้เป็นคำสั่งมิชอบ ถูกกล่าวหาใส่ร้าย ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง ยืนยันความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินวัด เดินหน้าขอความเป็นธรรมถึงที่สุดวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครพนม นายวิวัฒนชัย คงเพชร อายุ ๖๖ ปี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ วัดพระธาตุพนม พร้อมด้วย นายพัฒนา อุธิโย อายุ ๗๐ ปี นายสมพล ดีล้น อายุ ๗๓ ปี ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม ในฐานะผู้เสียหาย ถูกกล่าวหา ยักยอกเงินวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังจากพระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ได้มีหนังสือ คำสั่งวัดพระธาตุพนม ที่ ๓/๒๕๖๗ เรื่อง ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้วยปรากฏว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการยักยอกเงินของวัดพระธาตุพนม และสำนักงานป้องกันปราบปรามทุจริตได้เข้ามาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในการบริหารด้านการเงินและผลประโยชน์ของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร โปร่งใสตรวจสอบได้ พร้อมระบุชื่อ ไวยาวัจกรวัด ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ๓ ราย และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๑ ราย ลงนามคำสั่งวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ทั้งนี้ ทางกลุ่มไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม ระบุว่า หลังวัดพระธาตุพนม มีการออกคำสั่ง ทำให้เสียหาย ถูกกล่าวหาในทางเสื่อมเสียเกียรติยศ ชื่อเสียง จึงต้องการให้ทาง ป.ป.ช.นครพนม มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามอำนาจหน้าที่ รวมถึงยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นหนังสือราชการ ว่ามีการไต่สวนชี้มูลความผิดหรือไม่ จนเป็นสาเหตุที่มาของการออกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าเป็นการออกคำสั่งมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการกล่าวหาสร้างความเสียหาย ทั้งที่ทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการวัดพระธาตุพนม มานานหลาย ๑๐ ปี อีกทั้งยังไม่มีการไต่สวนชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.นครพนม จึงเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากคนบางกลุ่ม นอกจากนี้ยังได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พระราชสิริวัฒน์ หรือเจ้าคุณเพชร เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม (มหานิกาย) รวมถึง นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม นายเสน่ห์ สิงห์นุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครพนม เพื่อตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ตามขั้นตอนนายวิวัฒนชัย คงเพชร อายุ ๖๖ ปี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ วัดพระธาตุพนม เปิดเผยว่า ตนในฐานะตัวแทนไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม ที่ถูกกล่าวหา และถูกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่แตกต่างจากปลดการทำหน้าที่ ก่อนนี้ทำงานมาหลาย ๑๐ ปี อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นอดีตข้าราชการครู ที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีทุกคน แต่สุดท้ายมีคำสั่งออกมาในทางเสื่อมเสีย เชื่อว่าเป็นคำสั่งมิชอบ ไม่ได้มีการตรวจสอบยืนยันว่ามีการกระทำผิด กลับสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีการเผยแพร่เอกสารสู่สังคม ทำให้ถูกมองว่าเป็นคนผิด ยักยอกเงินวัดพระธาตุพนม และมั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้ง ไม่มีความเป็นธรรม จึงต้องการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง คืนความเป็นธรรมให้กับทุกคน “การที่ทางวัดพระธาตุพนม อ้างว่า ป.ป.ช.นครพนม เข้าตรวจสอบ จึงต้องมีการออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าไม่ถูกต้องตามกระบวนตามกฎหมาย จะต้องมีการสอบสวนหาคนผิด ตามกระบวนการก่อนที่จะมีคำสั่งให้ใครหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีเหตุผลที่มาที่ชัดเจน ไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่น ขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมจนถึงที่สุด”
