แม่บ้านชาวอินโดนีเซียถูกตำรวจรวบตัวได้ หลังก่อเหตุแอบโอนเงินนายจ้างชาวสิงคโปร์ที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม เข้าบัญชีเงินฝากของตัวเองมูลค่าราว ๑,๐๙๙,๐๐๐ บาทนางอัลเบอร์ตินา กัลลู แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย วัย ๔๖ ปี ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา ๑๖ เดือน หลังจากที่ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อกระทำความผิด จากการแอบโอนเงินในบัญชีของหญิงชราชาวสิงคโปร์ วัย ๘๒ ปี นายจ้างของเธอ ซึ่งมีอาการของโรคความจำเสื่อม มูลค่า ๔๑,๐๐๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว ๑,๐๙๙,๐๐๐ บาท มาเข้าบัญชีของตัวเองโดยตั้งแต่เดือนเมษายน ปี ๒๐๒๓ ที่ผ่านมา เธอได้รับความไว้วางใจจากนายจ้าง ที่ยอมบอกรหัสการทำธุรกรรม เพื่อให้สามารถโอนเงินเดือนจำนวนราว ๒๐,๐๐๐ บาทของเธอ เข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากคุณยายตาฝ้าฟาง ไม่สะดวกที่จะทำธุรกรรมเองได้ และเชื่อใจลูกจ้างที่ทำงานกันมานาน แต่กลับเจอกับลูกจ้างที่คิดไม่ซื่อซึ่งนับตั้งแต่ที่สาวใช้รู้รหัสทำธุรกรรมของธนาคาร แม่บ้านรายนี้ก็มีการโอนเงินออกจากบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกหลายครั้ง โดยเป็นการโอนเงินเกินจำนวนเงินเดือนของตัวเอง โดยในเดือนเมษายนโอนเงินจำนวน ๙๕๔ ดอลลาร์สิงคโปร์ ตามมาด้วยเดือนพฤษภาคมที่โอนเงินจำนวน ๔๗๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ และอีก ๗๘๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือนมิถุนายน จากนั้นสาวใช้ตัวแสบก็โอนเงินจำนวนมากขึ้นหลายเท่าตัวในเดือนกรกฎาคม เป็นจำนวนถึง ๓,๗๘๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ ก่อนจะพีกสุดในเดือนสิงหาคมที่โอนเงินไปถึง ๑๔,๗๘๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ และโอนเงินอีก ๑๑,๒๘๐ และ ๙,๒๘๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือนกันยายนและตุลาคมตามลำดับ รวมเงินทั้งสิ้นที่เธอโอนเข้าบัญชีตัวเองอยู่ที่ ๑๔๑,๓๒๔ ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว ๑,๐๙๙,๐๐๐ บาท โดยเธอโอนเงินต่อไปยังบัญชีของเธอในอินโดนีเซีย และนำเงินไปซื้อบ้านที่นั่น จนไม่มีเงินเหลือที่จะนำมาชดใช้คืนให้แก่เหยื่อทั้งนี้ หลานของเหยื่อเป็นผู้ที่ทราบเรื่องนี้เป็นคนแรก เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากที่ได้ตรวจสอบเงินในบัญชีและพบความผิดปกติ จึงรีบแจ้งตำรวจให้จับกุมดำเนินคดีกับสาวใช้สุดแสบรายนี้ทันที โดยบทลงโทษสำหรับการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อกระทำความผิด ได้แก่ โทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี ปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ.ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชียคลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ สิงคโปร์
