Sunday, 22 December 2024

เย็นไว้โยม ผู้โดยสารโวย รถไฟปล่อยคนเมาขึ้นรถ ด่ากราดมุดสบงพระ ผวาไร้ความปลอดภัย

07 Feb 2024
114

กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ หลังหนุ่มรายหนึ่งขึ้นรถไฟสายใต้ช่วงหัวค่ำ พบชายมึนเมาด่ากราดพระ ตรงที่นั่งสงฆ์ แม้หลวงพ่อทำเป็นไม่สนใจ แต่ชายดังกล่าวถึงขนาดมุดเข้าไปในสบงหลวงพ่อ ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเรียกพนักงานดูแลหลายรอบ แต่ล่าช้ากว่า ๑ ชั่วโมง ชาวเน็ตแนะควรรื้อฟื้นตำรวจรถไฟ และมีมาตรการตรวจผู้โดยสารมึนเมาไม่ให้ขึ้น เพราะมีหลายเคสเจอลักษณะเดียวกันtt ttเพจกลุ่มรถไฟสายใต้ – Thai Railway Southern Line มีผู้ใช้บริการรถไฟรายหนึ่ง โพสต์ภาพชายมีอาการมึนเมากำลังมุดสบงพระ บนที่นั่งพระสงฆ์ระหว่างโดยสารรถไฟ โดยพิมพ์ข้อความว่า “สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ควรคัดกรองผู้โดยสารให้ดีกว่านี้ คนที่มีอาการมึนเมาไม่ควรให้ขึ้นรถ ตัวเองตั๋วก็มีที่นั่ง แต่มาก่อกวนพระในที่นั่งสำรองพระ ทำแบบนี้ใช้ไม่ได้” ซึ่งหลังจากโพสต์ มีผู้โดยสารหลายรายเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น “วันก่อนมีคนเมามาถึงก็มานอนข้างๆ เราเลย แต่ จนท.มาตรวจตั๋วแล้วเห็นว่าเขานั่งไม่ตรงที่นั่ง เลยไล่ไปนั่งให้ถูกที่ ลำพังเราคงไม่กล้าไปบอกเขา หน้าตาดูอันตรายมาก” “แบบนี้ไม่ปลอดภัย สถานีใหญ่ปล่อยคนเมาเข้ามาได้ไง แม้จะมีตั๋วเดินทาง” “จริงๆ ควรมีตำรวจรถไฟก็ดีนะคะไว้ระงับเหตุฉุกเฉิน เราเคยนั่งรถไฟแล้วเจอเหตุการณ์ร้ายแรงมาก ((ขอไม่เอ่ยถึงนะคะ)) แบบฉุกเฉินเลย กว่าจะตาม จนท. มาได้คือ ทุกคนวิ่งกระเจิงกันคนละทิศละทางในขนาดที่รถไฟ วิ่งอยู่ เหตุเกิดจากการไม่คัดกรอง ผู้โดยสารนี่แหละ ต่อให้จะนั่งชั้นถูกหรือแพง ก็ต้องดูแลให้ทั่วถึงและมาตรการต้องดีกว่านี้ ไม่ใช่ใครขึ้นมาก็ได้แบบนี้”ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ที่ลงรูป ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ ๖ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บนขบวนรถด่วน ๘๓ เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-ตรัง ๑๘.๕๐ น. โดยชายที่มีอาการมึนเมา ขึ้นมาจากสถานีกลางกรุงเทพฯ ซึ่งจุดที่ถ่ายไว้เป็นที่นั่งสำหรับพระสงฆ์ ทั้งที่ชายผู้ก่อเหตุมีตั๋วที่ระบุที่นั่ง แต่ก็เดินมานั่งกับพระ และแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งพยายามด่า ทำร้ายร่างกาย จนไปถึงพยายามมุดเข้าไปในสบงของหลวงพ่อtt ttระหว่างเกิดเหตุ หลวงพ่อ พยายามไม่สนใจชายมึนเมา ด้วยการเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไปจนถึงพยายามลุกหนีไปนั่งที่อื่น แต่ชายผู้ก่อเหตุก็ยังเดินตาม ผมพยายามไปแจ้งให้พนักงานทราบเพื่อมาระงับเหตุตั้งแต่เริ่มจอดที่สถานีแรก แต่ก็ยังไม่มีพนักงานมาช่วยพระ ทั้งที่ตู้โบกี้ที่เกิดเหตุ เป็นตู้ที่ ๒ ต่อจากห้องที่พนักงานรถไฟอยู่”ผมพยายามแจ้งพนักงานรถไฟให้มาระงับเหตุ ตั้งแต่จอดที่สถานีบางบำหรุ แต่ดูเขาไม่ค่อยสนใจ ซึ่งกว่าพนักงานตรวจตั๋วจะมาระงับเหตุก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง จนรถไฟวิ่งมาถึงนครปฐม ลองคิดดูว่า ถ้าคนเมามีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายผู้โดยสารที่รุนแรง การที่พนักงานไม่สนใจและกว่าจะมาระงับเหตุ ผู้โดยสารที่เหมือนกับหลวงพ่อ ได้รับอันตรายถึงตายได้”tt ttในมุมของผู้โดยสาร อยากให้การรถไฟปรับปรุงในการคัดกรองผู้โดยสาร ด้วยการห้ามผู้โดยสารที่มึนเมาขึ้นรถไฟ เพราะตอนนี้เราปรับปรุงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ใหญ่โต แต่การคัดกรองผู้โดยสารกลับไม่มีความเข้มงวด ตัวอย่างเช่น รถทัวร์ ถ้าเจอผู้โดยสารเมา จะไม่ให้ขึ้นไปรถ”กรณีผู้โดยสารมีอาการมึนเมา ขึ้นมาใช้บริการรถไฟ และก่อกวนผู้โดยสารคนอื่น รายนี้ไม่ใช่รายแรก แต่เห็นมาหลายครั้งแล้ว ขณะเดียวกัน เวลาที่รถไฟกำลังออกจากต้นทาง ควรมีคนเดินมาตรวจตั๋วทันที ไม่ใช่รถไฟออกจากกรุงเทพฯ ไปถึงนครปฐมแล้ว เพิ่งมาเดินตรวจตั๋ว เพราะบางครั้งผู้โดยสารก็มีกรณีแย่งที่นั่งกัน หรือคนเมาที่ขึ้นมา ควรเชิญลงตั้งแต่ต้นทาง”.