รัฐบาลขอร่างกฎหมายประมงทุกพรรคไปพิจารณาอีก ๑๕ วัน ก่อนส่งกลับลงมติวาระหนึ่ง ๒๒ ก.พ. “ก้าวไกล” ประท้วงเดือด ชี้ ครม. ทำงานไม่รอบคอบ ไม่เสนอกฎหมายทั้งที่รู้ล่วงหน้า เลิกเรียกตัวเองเป็นรัฐบาลมืออาชีพ ทำงานแบบนี้เป็นได้แค่รัฐบาลเช้าชามเย็นชามวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ หลังจาก สส. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอภิปรายตลอดวัน เข้าสู่ช่วงการลงมติ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ ๒ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมฯ จึงแจ้งว่าคณะรัฐมนตรีขอรับร่างกฎหมายทั้ง ๗ ฉบับไปพิจารณาไม่เกิน ๖๐ วัน ก่อนให้สภาลงมติวาระที่ ๑ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงลุกขึ้นประท้วงว่า กฎหมายประมงฉบับนี้ สภาชุดที่แล้วมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญ มีรายงานออกมาชัดเจนแล้ว สมัยนี้ก็มีการตั้ง กมธ.วิสามัญอีก ๗ ร่างที่เสนอผ่านพรรคการเมืองทุกพรรค มีความปรารถนาดีต่อพี่น้องชาวประมง มีหลักการสำคัญตรงกัน ดังนั้นต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น รัฐมนตรีไม่ได้ชี้แจงเลย “ที่สำคัญที่สุด มีชาวประมงกี่คนที่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวชาวประมงอีกกี่แสนกี่ล้านชีวิตที่เขารอกฎหมายฉบับนี้ เพราะความเกียจคร้านของรัฐบาลหรือ ที่เขาต้องรออีก ๖๐ วัน ท่านจะตอบแทนชีวิตของชาวประมงที่ล่วงลับไปแล้ว และชีวิตของชาวประมงที่รอกฎหมายฉบับนี้อย่างไร ขอคัดค้านไม่ให้รัฐบาลอุ้มร่างนี้ ถ้ารัฐบาลจะอุ้ม ต้องตอบชาวประมงให้ได้” นายวิโรจน์ กล่าวด้านนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ร่าง พระราชบัญญัติการประมง ของรัฐบาลออกมาแล้ว พึ่งอนุมัติเมื่อ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗ และให้กฤษฎีกาไปตรวจร่างกฎหมายอยู่ ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาแล้ว เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร คงไม่มีการช้าไปกว่าการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้บอก และนี่คือเหตุผลว่า คณะรัฐมนตรีได้มีร่างพระราชบัญญัติมาแล้วขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ว่า สส.ฝั่งรัฐบาลพิจารณาแล้วว่าการรวมร่าง พระราชบัญญัติประมง ที่ประชาชนรอคอย ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ จะมาทำแบบสุกเอาเผากินไม่ได้ เพราะมีการเสนอร่างจากฝั่งรัฐบาลถึง ๕ ร่าง ทำให้ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ประท้วง ขอให้ถอนคำว่า สุกเอาเผากินด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตกลงว่าอำนาจนิติบัญญัติ หรือการออกกฎหมายเป็นของคณะรัฐมนตรีฝ่ายเดียวอย่างนั้นหรือ สส. เสนอมากี่ร่างถ้าไม่มีร่างของ ครม. แปลว่า สุกเอาเผากินหรือ การเริ่มคุยเรื่อง พ.ร.ก.ประมงฯ ไม่ได้เริ่มคุยวันนี้ แต่คุยตั้งแต่ ๒ สัปดาห์ก่อน รัฐบาลรับรู้ว่าวันนี้ ร่างกฎหมายประมงทุกร่างของ สส. จะเข้ามา และรัฐบาลก็มีร่างอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเพิ่งส่งให้กฤษฎีกาไปเมื่อ ๔-๕ วันก่อน จึงต้องตั้งคำถามว่าทำงานกันแบบไหน นี่คือการทำงานของคณะรัฐมนตรีที่ไม่ละเอียดรอบคอบ “เจตนาของคณะรัฐมนตรีตอนนี้ คือรอให้สภาพิจารณากฎหมาย แล้วก็มาขออุ้มไป ๖๐ วัน ร่างไหนเข้าสภาเมื่อไหร่ค่อยเริ่มทำงาน เลิกเรียกตัวเองว่าเป็นรัฐบาลมืออาชีพ แบบนี้เป็นได้แค่รัฐบาลเช้าชามเย็นชาม งานมาถึงมือเมื่อไหร่ค่อยทำ ระเบียบวาระระบุมา ๓-๔ เดือน ไม่เคยเอาไปศึกษา ขอร้องให้คณะรัฐมนตรีตั้งใจทำงานมากกว่านี้ ให้เกียรติอำนาจนิติบัญญัติที่เป็นอำนาจระนาบเดียวกับท่าน ให้เกียรติประชาชนที่เลือกท่านมาใช้อำนาจให้มากกว่านี้” นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอย่างไรก็ตาม ที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติให้ ครม. รับร่างไปพิจารณาเป็นเวลา ๑๕ วัน ก่อนนำกลับเข้าสภาเพื่อลงมติวาระที่ ๑ ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
