“นิวัติไชย” เผย ป.ป.ช. เร่งแกะข้อมูลกองกลางที่ยึดได้จากคดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว แย้มพบเชื่อมโยงหลายเรื่อง เผย ยังไม่เห็นคำสั่งให้ “เจ๋ง ดอกจิก” พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่เขตตรวจราชการที่ ๑๑ ขอเปรียบเทียบเวลาก่อนฟันธงว่ายังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่วันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าในคดีรีดตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายนิวัติไชย กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช. ได้รับเรื่องไว้แล้ว และเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ป.ป.ช. จึงมอบอำนาจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และกองบัญชาการสอบสวนกลางรับไปดำเนินการ ส่วน ป.ป.ช. ได้เข้าไปร่วมในการจับกุมผู้ที่ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม และการยึดอายัดวัตถุของกลาง โดยทราบข่าวว่ากำลังแกะข้อมูลอยู่ และข้อมูลนั้นอาจจะเชื่อมโยงไปในหลายเรื่อง มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะเป็นผู้เสียหาย แต่ไม่ได้มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยยืนยันว่ามีความคืบหน้าไปมากมีการประชุมมาโดยตลอด เมื่อถามว่า นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ออกมายืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐแล้ว มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช. ได้มอบเรื่องนี้ไปที่ ปปป.ตร. แล้ว ส่วน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีการขอข้อมูลคำสั่งเรื่องให้พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่เขตตรวจราชการที่ ๑๑ เพราะทาง ปปป.ตร. กำลังต้องการว่าพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อใด เนื่องจากมองว่าการกระทำอาจจะไม่ใช่ความผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่แล้ว อาจจะเป็นการกรรโชกทรัพย์แทน ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งตนเองยังไม่เห็น เพราะมอบเรื่องให้ ปปป.ตร. เป็นผู้ดูแล ซึ่ง ปปป.ตร. อาจจะขอโอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องดูคำสั่งว่าให้พ้นไปเมื่อไหร่ อย่างไร เพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบว่ามีการเรียกรับรีดทรัพย์เมื่อไหร่ เพราะแค่เรียกรับก็ผิดแล้วทั้งที่ยังไม่ได้ทรัพย์สิน แม้จะแค่โทรไปเรียกรับก็ถือว่าความผิดสำเร็จและถือว่าจบแล้ว โดยความผิดจะเริ่มต้นในจุดนั้น
