Thursday, 19 December 2024

วิเคราะห์การเมือง : บทที่จำเป็นต้องเล่น

“นิติสงคราม” ตลบอบอวลการเมืองไทย ความขัดแย้งแบ่งฝักฝ่าย แก่งแย่ง สืบทอด รักษาอำนาจ ยังดำเนินอยู่ต่อเนื่อง ต่างไปแค่รูปแบบวันนี้อยู่ในโหมดประหัตประหารฟาดฟันกันด้วยกฎหมายสงบจอมปลอม ปรองดองสร้างภาพ สันติสุขความร่วมไม้ร่วมมือไม่มีและดูท่าว่าจะไม่จบง่ายๆ ไม่รู้ต้องเสียเวลาอีกนานแค่ไหน ส่งผลกระทบเสียหายประเทศชาติพัฒนาล้าหลังคดีความคำพิพากษาเกี่ยวเนื่องเรื่องการเมือง จากฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระ คนติดตามการเมืองไทยมักคาดเดากันได้ไม่ผิดถึงผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงแค่วิธีการ แต่คำตอบสุดท้ายไม่เปลี่ยนพรรคก้าวไกลขวัญใจคนรุ่นใหม่ พุ่งทะยานไต่ระห่ำขึ้นมาจนแซงหน้าทุกพรรคด้วยความห่ามห้าว แต่แบกวัตถุอันตรายไว้เต็มหลัง มุ่งมั่นแก้ไขมาตรา ๑๑๒ บนความเชื่อที่ว่าเป็นการยกระดับปรับปรุงสิทธิของทุกฝ่ายแต่เรื่องนี้โดนสังคมการเมือง ชนชั้นอีลิทต่อต้านคัดค้านเรื่อยมาในที่สุดวันที่ ๓๑ มกราคม๒๕๖๗ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสินเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และมีคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวยุ่งเกี่ยวมาตรา ๑๑๒ เฉียบขาดพลพรรคก้าวไกลสงสัยตั้งคำถาม อำนาจฝ่ายตุลาการล้ำเส้นกินแดนฝ่ายนิติบัญญัติเกินไปหรือไม่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นทวงถามในสภา ขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ยืนยันจุดยืนของสภาว่ามีอำนาจ หน้าที่ทำงาน ตรากฎหมาย แก้กฎหมาย เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าเราคือตัวแทนที่ถูกเลือกตั้งมาพูด เสนอ แก้กฎหมายเพื่อประชาชนเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีส่วนที่อาจทำให้เกิดการตีความได้ว่า ในอนาคตถ้าจะแก้หรือจะทำอะไรกับข้อกฎหมาย เราต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตก่อนหรือไม่แต่ยังไม่มีคำตอบยืนยันจากประธานสภา ขอรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญก่อนสภาพภายในพรรคก้าวไกลปั่นป่วนไม่น้อย แม้ใจสู้แค่ไหนก็หวั่นไหวเหมือนกัน จะเดินหน้าต่อแบบไหนความเห็นยังแตกเป็นหลายทาง เหมือนเห็นหอกดาบ ระเบิดอยู่ตรงหน้า แต่ตัวเองมีแค่มือเปล่าสู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย ต้องล่าถอยมาตั้งหลักวางแผนก่อนโฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลยามนี้ เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลแล้วบอกตรงๆไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ก่อนดีลำพังตัวเองตอนนี้ห้อมล้อมไปด้วยอำนาจ แต่ยังหวาดระแวงอนุรักษ์นิยมที่ไม่เคยหลับแม้จะย้ายฟากข้ามขั้วไปแล้วแท้ๆ แต่ยังหนีไม่พ้นเป็นเหยื่อ “นิติสงคราม” เช่นกันล่าสุด อัยการสูงสุด ตำรวจ บก.ปอท. ประกาศแจ้งขออายัดตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีกระแสข่าวว่าจะกลับบ้าน ๑๘ กุมภาพันธ์นี้แล้ว จากคดีค้างเดิมตามมาตรา ๑๑๒ เหตุเกิดตั้งแต่ ๒๑ พฤษภาคม๒๕๕๘ ที่เกาหลีใต้นินทาให้แซดว่าเป็นเกมล็อกคอ จับพรรคเพื่อไทยเป็นตัวประกันฝ่ายอนุรักษ์ไม่กล้าวางใจ ปล่อยเสือเข้าป่าโดยไร้ชนัก บ่วงรัดคอหากคุ้มดีคุ้มร้ายไปร่วมมือกับก้าวไกล หลัง สว.หมดอำนาจกลางเดือน พ.ค. ก็งานเข้ากลุ่มอำนาจเก่า นับนิ้วจำนวน สส.เกินครึ่งสภาแก้กฎหมายสบายมือ แค่ ๒ พรรคจับมือรวมตัวตั้งรัฐบาลกันได้เลยแต่ในทางปฏิบัติ ๒ พรรคใหญ่ร่วมงานกันยากด้วยหลายปัจจัย รอยเท้าที่ฝากกันไว้ยังล้างไม่ออกเพื่อไทยเป็นหัวหอกแกนนำรัฐบาลก็จริง แต่คำถามคือบริหารงานได้เต็มไม้เต็มมือแค่ไหนแฟนคลับ สาวกเห็นแล้วหงุดหงิด ผ่านมา ๔-๕ เดือนท่ามกลางความคาดหวังสร้างผลงาน พลิกฟื้นวิกฤติแต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย นโยบายเรือธงก็โดนรุมขวาง ปัดแข้งปัดขาองค์กรอิสระ ขุมข่ายอนุรักษ์นิยมยังทำงานหนัก เพื่อไทยยังคงเป็นปฏิปักษ์ฝั่งตรงข้ามความหมายชัดเจนว่าร่วมกันเป็นรัฐบาลเพราะจำเป็น และจำใจเนื้อหารายงานของคณะกรรมการศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธาน หลุดออกมานินทากันขรม คนเพื่อไทยข้องใจก้าวก่ายล้ำเส้นรัฐบาล สังคมก็กังขาบทบาทหน้าที่ล่าสุด ป.ป.ช.เผยฉบับทางการ ปรับโหมดให้เบาลง ไม่รุกล้ำแกมบังคับเกินไปสวนทางท่าทีรัฐบาลเพื่อไทยขึงขังลุยต่อ ไม่เลิก ไม่ลดขนาด แถมบลัฟกลับอาจทำเป็น พ.ร.ก.ให้รู้แล้วรู้รอดเพื่อไทยรู้อินไซด์ มีชั้นเชิงจังหวะถอยรุก ยืดได้หดได้ อาบน้ำร้อนมาก่อนเลยอยากสอนน้องแต่ก้าวไกลไม่ฟัง เพราะถ้าทำตามก็ไม่แตกต่าง เป็นแค่เพื่อไทยสาขา ๒จำเป็นต้องเน้นบทเด็กแข็งกร้าว ท้าทายเสี่ยงตาย แต่ได้ใจคน.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม