“นฤมล” เผย “นายกฯ เศรษฐา” ในฐานะหัวหน้าทีมไทยแลนด์ ดึงเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ปี ๒๕๖๖ เพิ่มกระฉูด ๗๒% จีนครองอันดับหนึ่ง ๒๕% ของมูลค่าทั้งหมดวันที่ ๙ ก.พ. ๒๕๖๗ ศ.ด็อกเตอร์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานด้านการค้าและการลงทุนของทีมไทยแลนด์ โดยได้เปิดเผยตัวเลขด้านการลงทุนจากการทำงานของทีมไทยแลนด์ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าองคาพยพด้านการลงทุนที่สำคัญ คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยปี ๒๕๖๖ ในภาพรวม มีโครงการขอรับการส่งเสริม ๒,๓๐๗ โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๑๖ มูลค่าเงินลงทุน ๘๔๘,๓๑๘ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๔๓ ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมาสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งถือเป็นเครื่องจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย นำไปสู่การจ้างงานและการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีระหว่างบริษัทต่างชาติกับผู้ประกอบการไทย ปี ๒๕๖๖ มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน ๑,๓๙๔ โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๘ มูลค่าเงินลงทุนรวม ๖๖๓,๒๓๙ ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ ๗๒ โดยหากพิจารณาประเทศที่มีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ จีน ๑๕๙,๓๘๗ ล้านบาท สิงคโปร์ ๑๒๓,๓๘๕ ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา ๘๓,๙๕๔ ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ประเทศจีนประเทศเดียว มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ ๒๕ ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่า ๗๙,๑๕๑ ล้านบาท สูงเป็นอันดับ ๔ แต่นับว่ายังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๖๐ จากปีก่อน นักลงทั้งทุนจากทั้งสี่ประเทศจึงมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย“นายกฯ เศรษฐาได้มอบนโยบายให้ทีมไทยแลนด์ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อดึงเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพื่อส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันกันเองในอุตสาหกรรมซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค และเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์อีวี อุตสาหกรรม BCG ทำให้เกิดการจ้างงานในขณะเดียวกันรัฐบาลยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศเพื่อสร้างเครือข่ายการผลิตของตนเอง และใช้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนไปเปิดตลาดใหม่ในประเทศเป้าหมาย” ผู้แทนการค้ากล่าวย้ำ