นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ผ่านระบบ Video Conference ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เน้นย้ำเรื่องการรับนักเรียนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และมีข้อห่วงใยถึงกรณีการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษนอกเหนือจากที่ สพฐ. กำหนดไว้ ๔ ข้อ ดังนี้ ๑.นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้บริจาคที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อจัดตั้งโรงเรียนซึ่งมีเงื่อนไขมาก่อน ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ ๕ กุมภาพันธ์๒๕๖๒ ๒.นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส ๓.นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ ๔.นักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูและบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งเงื่อนไขพิเศษอื่นๆนอกเหนือจาก ๔ ข้อนี้ หากโรงเรียนเห็นว่ามีความจำเป็นให้เสนอคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นชอบ ก่อนการประกาศรับสมัครนักเรียน โดยให้คณะกรรมการรับนักเรียนระดับโรงเรียน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษรวมกับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของแผนการรับนักเรียนห้องเรียนปกติ และประกาศหลักเกณฑ์ก่อนการประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาตามเงื่อนไขพิเศษให้สาธารณชนทราบ“กรณีเงื่อนไขพิเศษของนักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส ให้ประกาศเฉพาะเลขประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือก โดยให้มีการจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเป็นความลับ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหลักสิทธิของเด็ก ตามหลักการสิทธิมนุษยชนของเด็กฯ” รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า กรณีการเก็บเงินบำรุงการศึกษา จากการติดตามของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า โรงเรียนบางแห่งมีการเก็บเงินค่าใช้จ่ายโดยสมาคมผู้ปกครอง ซึ่งเป็นการเก็บเงินที่นอกเหนือจากโรงเรียนได้ประกาศไว้ สพฐ.ได้ให้ความสำคัญต่อกรณีดังกล่าวและขอกำชับว่าให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องการเก็บเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งตามประกาศ ศธ. กำหนดให้สถานศึกษาสามารถเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษาได้ โดยสถานศึกษาต้องออกใบเสร็จให้กับผู้ปกครองเมื่อรับเงินเข้าสู่สถานศึกษาแล้ว และให้จัดเก็บตามอำนาจการเก็บรักษาเงินรายได้สถานศึกษา ตามหนังสือ สพฐ. ที่ ศธ ๐๔๐๐๒/๓๘๓ ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ อย่างเคร่งครัด.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
