หวย ๓๐ ล้านยังไม่จบ ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาคดี “หมวดจรูญ” ฟ้องกลับ “ครูปรีชา” ทนายความร่วมกันฟ้องเท็จ “เจ๊บ้าบิ่น” และ “เจ๊พัช” ให้การเท็จ ศาลให้รอลงคำพิพากษา หลังฝ่ายจำเลยกลับคำให้การสลับไปสลับมา รวมถึงกรณีโจทก์เรียกเงิน ๒.๕ ล้าน กลุ่มพยานที่ร่วมให้การเท็จไม่ยินยอมชดใช้ ขณะที่ครูปรีชาที่มาลุคใหม่ผมดกดำ ยันไม่ได้กลับคำให้การ โวยหากมาฟ้องพยานที่เป็นผู้บริสุทธิ์แบบนี้ต่อไปใครจะกล้าเป็นพยานจากคดีหวย ๓๐ ล้านอลเวง กรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์และรับของโจร ภายหลังหมวดจรูญนำลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ งวดประจำวันที่ ๑ พฤศจิกายน๒๕๖๐ จำนวน ๕ ใบ ไปขึ้นเงินรางวัลรวมเป็นเงิน ๓๐ ล้านบาท รวมถึงคดีอื่นๆอีกหลายคดี มีการต่อสู้กันในชั้นศาลมายาวนานหลายปี กระทั่งศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดว่าครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ ทำให้หมวดจรูญยื่นฟ้องกลับครูปรีชา ทนายความและพยานที่ร่วมกันให้การเท็จที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เวลา ๐๘.๕๐ น. วันที่ ๘ ก.พ. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทนายความหมวดจรูญเดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชากับพวกรวม ๓ คดี ร.ต.ท.จรูญเปิดเผยก่อนเข้ารับฟังคำตัดสินว่า ให้เป็นไปตามที่ศาลท่านตัดสิน ส่วนความรู้สึกนั้นถึงผลคดีจะออกมาอย่างไรก็จะไม่ให้อภัย ฝากไปถึงคนซื้อหวยขออวยพรให้อย่าเกิดเรื่องแบบตน ขอให้โชคดีอย่าเจออย่างตนก็แล้วกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังหมวดจรูญเข้าไปในศาลสักพักครูปรีชาได้เดินทางมาถึงท่าทางอารมณ์ดี ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่าวันนี้ครูปรีชามาในลุคใหม่สวมชุดสูทสีครีม ผมดกดำ พร้อมเปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ทรงผมทรงใหม่ทำให้ครูมีความสุขมาก ช่วงนี้ยุ่งไม่ค่อยมีเวลาเพราะการค้าขายต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ถึงตีห้า เมื่อถามว่าหากศาลพิพากษาออกมาไม่เป็นคุณต่อครูปรีชาจะเอาอย่างไร ครูปรีชาตอบว่า เราขอใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายตามมาก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมายเช่นกัน เพราะกฎหมายมีไว้ให้ทุกคนใช้สิทธิอยู่แล้วต่อมาเวลา ๑๒.๐๐ น.นายษิทรา หรือทนายตั้ม เปิดเผยหลังเข้าฟังการตัดสินของศาล คดีที่ ร.ต.ท.จรูญฟ้องนายปรีชากับพวกปมหวย ๓๐ ล้าน ว่า มี ๓ คดี คดีแรกฟ้องครูปรีชากับทนายของครูปรีชาในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จศาลได้รอลงคำพิพากษา ต้องนำกลับอ่านคำพิพากษาใหม่ เนื่องจากครูปรีชากลับคำรับสารภาพสลับไปมา คดีที่สองคือคดีร่วมกันเบิกความเท็จ ครั้งแรกครูปรีชายอมรับสารภาพ แต่มากลับคำรับสารภาพภายหลัง ศาลเล็งเห็นว่าเป็นการประวิงเวลาไม่ยินยอมให้กลับคำรับสารภาพ โดยจะมีนัดฟังคำตัดสินวันที่ ๒๐ มีนาคมนี้ทนายตั้มกล่าวอีกว่า คดีที่สามเป็นคดีที่ฟ้องร้องนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่นและนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช แม่ค้าลอตเตอรี่ และพยานบุคคลอื่นๆรวม ๑๐ คน ในข้อหาเบิกความเท็จ แต่เนื่องจากคุยไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว มีปัญหาเรื่องเงิน ๒.๕ ล้านบาท ที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องไป กลุ่มพยานไม่ยินยอมจะร่วมชดใช้และขอต่อสู้คดี โดยจะมีนัดไต่สวนมูลฟ้องในเดือน เมษายนนี้ ทั้งนี้ครูปรีชาระบุว่า หากฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร โดยไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้องแล้วให้นำเงินไปวางที่ศาลดีกว่า ทำให้หมวดจรูญโมโหด้าน ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า จริงๆตนน่าจะเป็นคนพูดให้ครูปรีชาฟังมากกว่าว่าการที่มีคนอย่างคุณอยู่แล้วสังคมจะอยู่อย่างไรและในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง วันหน้าก็ไม่ต้องคุยกันดีกว่า ตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จะจบก็ได้ แต่ให้โอกาสแล้วเขาไม่คว้าไว้ก็พอตนเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว เพราะรู้มาแต่แรกว่าคดีจะนานแน่ๆ ทั้งนี้หากเรื่องยังไม่จบก็คงไม่ขอซื้อหวยอีกขณะที่ครูปรีชา กล่าวว่า เหตุที่คุยกันไม่ลงตัวเพราะความเข้าใจไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนประเด็นที่หมวดจรูญโมโหตนนั้น ในเมื่อพยานเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วมาฟ้องแบบนี้ ต่อไปใครจะมาเป็นพยานให้ หากเจอคนฆ่ากันต่อหน้าหรือขโมยขึ้นบ้าน ผู้คนก็คงไม่มาเป็นพยานให้แล้วตนเพียงแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น นอกจากนี้ปัญหาไม่ได้มีเพียงเรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องความเข้าใจภายในไม่ใช่เรื่องภายนอก คนสองคนจะเข้าใจกันได้ต้องเกิดจากความเข้าใจ ดังนั้นก่อนจะชำระ ต้องเคลียร์ใจก่อน ยืนยันว่าตนไม่ได้กลับคำให้การ แต่เพื่อเป็นการยุติคดีด้วยความสมานฉันท์เท่านั้น ส่วนคดีที่กองปราบปรามที่ถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จ มีนัดส่งสำนวนให้อัยการเดือน มีนาคมนี้ ตนไม่กังวลและพร้อมเข้าสู่กระบวนการด้าน น.ส.พัชริดา หรือเจ๊พัช กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินคดีที่ตนและเจ๊บ้าบิ่นร่วมกับครูปรีชาถูกฟ้องเบิกความเท็จ โดยครูปรีชาไกล่เกลี่ยและจะให้ชดใช้เงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท แต่ยังไม่ตกลงรายละเอียด จึงขอเลื่อนการจ่ายออกไปก่อนโดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้ แต่ครูปรีชาจะเป็นผู้ชี้แจงเอง ตนจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ลอตเตอรี่ก็แพง ได้กำไรแค่ใบละ ๑๐ บาท หากผลสั่งให้ต้องจ่ายก็ไม่มีเงินจะจ่ายไม่มีทรัพย์สินให้ไปยึด ส่วนเรื่องการเบิกความเท็จจริงไม่ขอตอบเกรงจะเป็นการก้าวล่วงศาล แต่เรื่องนี้ถือว่ารู้อยู่แก่ใจอยู่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืออะไรอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
