๑๓ วัน “บุ้ง-เนติพร” นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง อดอาหาร-น้ำ ประท้วง หลังศาลตัดสิน ผิดข้อหาละเมิดอำนาจศาล จำคุก ๑ เดือน พบ มีอาการนอนไม่หลับ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปฏิเสธไม่รับการรักษา หากเสียชีวิต ขอบริจาคร่างกายวันที่ ๙ ก.พ. ๒๕๖๗ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงาน อัปเดตอาการสุขภาพของเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง เมื่อวาน (๘ ก.พ.) หลังเจ้าตัวอดอาหาร และน้ำ ติดต่อกันเป็นวันที่ ๑๓ และอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นวันที่ ๓ นอกจากนี้ เนติพร ระบุขอแจ้งความประสงค์มอบร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากตนเองเสียชีวิต สรุปอาการของเนติพร วันนี้ โดยศูนย์ทนายความฯ ประกอบด้วยอาการนอนไม่หลับปัสสาวะยังคงมีแดงเข้ม และภาวะจากกระเพาะอักเสบรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายแทบทุกส่วน เหนื่อยมาก เพลียมาก รู้สึกปวดแสบร้อนมากจากข้างในร่างกายทั้งนี้ แพทย์กังวล “เนติพร” อาจจะมีอาการแทรกซ้อนได้จึงต้องการเจาะเลือดไปตรวจ แต่ “เนติพร” ปฏิเสธไม่รับการรักษาพยาบาลเนติพร ยังคงเน้นย้ำว่า การตัดสินใจอดอาหารและน้ำครั้งนี้เป็นเพราะรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรมจากศาลอาญากรุงเทพใต้ทั้งนี้ เมื่อ ๒๖ ม.ค. ที่ผ่านมา เนติพร ถูกศาลถอนประกันตัว และส่งตัวเข้าเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากศาลมองว่า วันที่ชุมนุมประท้วงหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เธอผิดเงื่อนไขการประกันตัวคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๕ ส.ค. ๒๕๖๖ นักกิจกรรมรวมตัวหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอน นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากไม่โหวตเลือกนายกฯ จากเสียงข้างมากของประชาชนในวันเดียวกัน ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาให้เธอผิดข้อหาละเมิดอำนาจศาล จากกรณีที่เธอมีเรื่องวิวาทกับ รปภ.ศาล วันที่ไปให้กำลัง นายสหรัฐ สุขคำหล้า หรืออดีตสามเณรโฟล์ค ถูกตัดสินจำคุกคดีมาตรา ๑๑๒ โดยศาลสั่งจำคุกเนติพร ๑ เดือน ไม่รอลงอาญาหลังจากนั้น เนติพร ได้เริ่มประกาศอดอาหาร และน้ำทันทีในวันที่ ๒๗ มกราคม๒๕๖๗ เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมศูนย์ทนายฯ รายงานความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.เนติพร ร้องขอให้ทนายความคัดภาพถ่ายวิดีโอกล้องวงจรปิดของศาลอาญากรุงเทพใต้ ในขณะเกิดเหตุวิวาทกับ รปภ. ซึ่งต่อมาถูกนำไปกล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาลนั้นล่าสุด ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้คัดถ่ายวิดีโอกล้องวงจรปิด ซึ่งทำให้ น.ส.เนติพร รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องการนำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านน.ส.เนติพร แจ้งเจตจำนงว่าขอปฏิเสธการรักษา และถ้าถึงแก่ชีวิตแล้ว ประสงค์จะบริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้นำไปใช้ศึกษาและวิจัยร่างกายของมนุษย์ที่อดอาหาร และน้ำประท้วงโดยเนติพร หวังว่าจะมีประโยชน์ในการรักษาคนที่ต้องอดอาหารคนอื่นอีกในอนาคต ทนายความจึงทำเอกสารให้บุ้งลงชื่อตามประสงค์เรียบร้อยแล้ว