Friday, 20 September 2024

ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ๗๑ วัน ๙,๗๙๘ ล้าน ไกล่เกลี่ยแล้วกว่า ๑.๒ หมื่นราย

ปลัดมหาดไทย เผย ยอดลงทะเบียน วันที่ ๗๑ ลงแล้ว ๑.๔ แสนราย มีมูลหนี้นอกระบบรวมกว่า ๙,๗๙๘ ล้าน ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว ๑๒,๗๖๘ ราย มูลหนี้ลดลงกว่า ๖๖๗ ล้านบาท ย้ำ ทุกจังหวัดเร่งเจรจาการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ พร้อมหาแหล่งทุนใหม่ให้ประชาชนวันที่ ๙ ก.พ. ๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ ๗๑ โดยเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานผลการลงทะเบียน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๑๔๐,๕๑๖ ราย มูลหนี้รวม ๙,๗๙๘.๐๗๗ ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ๑๑๘,๐๖๔ ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ๒๒,๔๕๒ ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ ๑๐๙,๙๕๑ รายมีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๕ ลำดับแรก ดังนี้ ๑. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๑๑,๑๑๑ ราย เจ้าหนี้ ๘,๐๐๔ ราย มูลหนี้ ๘๕๕.๐๙๘ ล้านบาท ๒. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน ๕,๖๗๐ ราย เจ้าหนี้ ๕,๒๗๑ ราย มูลหนี้ ๓๘๖.๔๗๔ ล้านบาท ๓. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๒๐๔ ราย เจ้าหนี้ ๔,๑๕๔ ราย มูลหนี้ ๓๔๐.๖๐๒ ล้านบาท ๔. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน ๔,๘๗๙ ราย เจ้าหนี้ ๓,๘๙๖ ราย มูลหนี้ ๔๑๗.๒๙๓ ล้านบาท ๕. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน ๓,๗๒๖ ราย เจ้าหนี้ ๒,๖๒๖ ราย มูลหนี้ ๓๓๔.๔๘๒ ล้านบาทขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ๕ ลำดับแรก ได้แก่ ๑. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน ๒๒๙ ราย เจ้าหนี้ ๒๓๕ ราย มูลหนี้ ๑๔.๑๑๐ ล้านบาท ๒. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน ๓๒๖ ราย เจ้าหนี้ ๒๔๒ ราย มูลหนี้ ๒๓.๓๗๓ ล้านบาท ๓. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน ๓๖๙ ราย เจ้าหนี้ ๒๘๙ ราย มูลหนี้ ๑๓.๘๖๑ ล้านบาท ๔. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน ๔๔๖ ราย เจ้าหนี้ ๓๒๙ ราย มูลหนี้ ๑๙.๙๙๙ ล้านบาท และ ๕. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน ๔๖๕ ราย เจ้าหนี้ ๓๕๐ ราย มูลหนี้ ๒๔.๒๐๐ ล้านบาท“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๒๑,๓๔๘ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๒,๗๖๘ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย ๑,๙๔๕.๐๒๙ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๑,๒๗๗.๔๓๗ ล้านบาท มูลหนี้ลดลง ๖๖๗.๕๙๒ ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ๓,๑๙๖ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๓๔๗ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๒๖๓.๗๔๔ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๓๔.๙๘๙ ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง ๒๒๘.๗๕๕ ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ และมีความประสงค์จะดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่แล้ว ๒๖๓ คดี ใน ๓๔ จังหวัด” นายสุทธิพงษ์ กล่าวนายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการคลัง เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเชิงรุก เพื่อทำให้ประชาชนผู้มีความเดือดร้อนจากการต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อใช้ประทังชีวิต ประกอบอาชีพ และดูแลครอบครัว ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้ใช้กลไกทุกระดับในพื้นที่ ด้วยการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขต พร้อมทั้งมอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยรับลงทะเบียน และหน่วยไกล่เกลี่ยประนีประนอม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ รวมทั้งหาแหล่งทุนใหม่ให้พี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนด้วย”ตนได้สั่งการเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเร่งเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินให้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วที่สุด สำหรับกรณีเจ้าหนี้ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้น ได้มีแนวทางให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งให้ใช้กลไกระดับพื้นที่ในทุกภาคีเครือข่าย เร่งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ลูกหนี้นอกระบบเข้ามาลงทะเบียนให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก ๒๐ วัน ที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเราจะรับลงทะเบียนถึงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นี้ สามารถลงทะเบียนได้ทั้งทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. ๑๕๖๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย