Thursday, 19 December 2024

เมียศรีสุวรรณร่วมขบวนการ "หมายเรียก" มารับข้อหา ธรรมนัสขอกําลังตํารวจคุ้มครองอธิบดีข้าว

ตำรวจชุดคลี่คลายคดีแก๊ง “พี่ศรีตบทรัพย์” ออกหมายเรียกมารับทราบข้อหาเพิ่มอีก ๒ คน ๑ ในนั้นเป็นภรรยาของ “ศรีสุวรรณ จรรยา” พบพฤติการณ์ เป็นตัวการร่วม เผยขณะนี้มีผู้เสียหายมากกว่า ๑๐ ราย แผนประทุษกรรมเดียวกันหมด อยู่ระหว่างไล่ดำเนินการตามลำดับ ด้าน “ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ทำหนังสือขอตำรวจดูแลความปลอดภัยอธิบดีกรมการข้าวแล้วที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น. วันที่ ๘ ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ “แก๊งพี่ศรี” ขบวนการตบทรัพย์และกรณีอธิบดีกรมการข้าวเข้าพบเพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกคุกคามว่า เมื่อวันที่ ๗ ก.พ. อธิบดีกรมการข้าวเข้ามาพบเพื่อขอบคุณตำรวจและแสดงความประสงค์ที่จะช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์การทำงานของหน่วยงาน ส่วนประเด็นที่คาดว่าถูกคุกคาม ขณะนี้ข้อเท็จจริงยังไม่แน่ชัด แต่อธิบดีกรมการข้าวระบุมีรถเก๋งขับมาวนเวียนและมีโดรนบินหล่นลงมาในบริเวณบ้านทำให้เกิดความกังวล ร้องขอให้ตำรวจช่วยจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัย ส่วนความคืบหน้าในการขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหานั้น พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา มารับทราบข้อหา ซึ่งจากพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดและแชตไลน์พบพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นตัวการร่วม แต่เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ตำรวจและศาลเห็นตรงกันว่าต้องดำเนินการตามหลักการไม่รุนแรง ให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันศุกร์ที่ ๑๖ ก.พ. นอกจากนี้จะเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีก ๑ คน มารับทราบข้อกล่าวหาด้วย โดยบุคคลนี้สามารถติดต่อได้และเจ้าตัวแจ้งว่าจะเข้ามาพบตำรวจภายในสัปดาห์หน้าพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่ออีกว่า กรณีของแรมโบ้อีสาน-นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่นำข้อมูลมาให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เป็นการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนำมาใช้ขยายผลได้ ทำให้คดีมีน้ำหนักมากขึ้น ส่วนที่มีผู้เปิดเผยว่านายเสกสกลเอง มีพฤติกรรมเดียวกันในการเรียกรับเงินวิ่งเต้นโครงการรัฐจะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่นั้นอย่าเพิ่งไปเปิดแผล ตอนนี้ข้อมูลที่ให้มาถือว่ามีประโยชน์มาก หากผู้ที่ถูกกล่าวอ้างมีข้อมูลเรื่องนี้ก็สามารถเข้าให้ข้อมูลได้ สำหรับความคืบหน้าในการขยายผลไปยังความเสียหายวงใหม่นั้น ตอนนี้มีข้อมูลให้ตรวจสอบมีมากกว่า ๑๐ วง ทั้งวงที่อยู่ในขั้นตอนเจรจาและวงที่มีการถอนเรื่องร้องเรียนออกไปแล้ว โดยวงที่ ๒ จะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ ผู้เสียหายคือนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี พบมีแผนประทุษกรรมเหมือนกันทุกอย่าง กลุ่มผู้ต้องหาก็เป็นกลุ่มเดียวกัน ลักษณะเข้าไปพูดคุยกับนายกองตรี ธนกฤต แต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วยและมีการชี้แจงกลุ่มนี้ก็เลยไปพูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น รัฐมนตรีก็ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ยังดื้อดันพยายามที่จะตบทรัพย์ให้ได้ ทั้งนี้ตัวเลขที่เรียกเงินถือว่าไม่เยอะมาก โดยวง ๒ นี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจะส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณา ส่วนวง ๓ ที่จะเปิดต่อไปนั้น ขอไม่บอกว่าเป็นหน่วยงานไหน ผู้เสียหายเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ อยู่ระหว่างการนัดหมายกันและในวันจันทร์ที่ ๑๒ ก.พ. ข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒ คน ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำรายชื่อมามอบให้จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลด้วยที่รัฐสภา เวลา ๑๒.๔๕ น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุอธิบดีกรมการข้าวกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีชายนิรนามป้วนเปี้ยนหน้าบ้านและมีโดรนปริศนาตกในบ้านว่า อธิบดีกรมการข้าวได้รายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบแล้ว พร้อมปรึกษาว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากบุคคลดังกล่าวมาป้วนเปี้ยนหลายครั้งและมีการใช้โดรนบินรอบบ้านตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงทั้งอธิบดีและครอบครัว จึงนัดให้อธิบดีมาพบเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตนจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอให้ตำรวจช่วยดูแลในเรื่องนี้เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบในทางคดี“อย่าเพิ่งไปตั้งสมมติฐานเรื่องนี้ว่าเป็นการข่มขู่ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจหากเป็นเรื่องจริงคงต้องมีมาตรการออกมาแก้ไข คดีนี้หลักฐานมันไปไกลแล้วคดีจะปิดแล้ว อยากให้แยกเรื่องคดีความซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ กับการทุจริตในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผมที่จะกำกับดูแลตรวจสอบ ส่วนกรณีนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ส่งรายงานการตรวจสอบกรณีกรมฝนหลวงให้แล้วนั้น ผมเซ็นอนุมัติตั้งคณะกรรมการสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้ว ยืนยันทุกเรื่องกระทรวงเกษตรฯได้ทำไปหมดแล้ว แต่เมื่อเป็นประเด็นในสังคม กระทรวงเกษตรฯต้องเน้นให้ละเอียดมากขึ้นไม่ให้เสียภาพลักษณ์ของหน่วยงาน เชื่อว่าใกล้เสร็จแล้ว” ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่