ศิษย์เก่าอุเทนถวายบุกยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการอว. ค้านการย้ายสถาบันออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด นัดรวมพลศิษย์เก่าทั่วประเทศแสดงจุดยืนที่กระทรวง อว. ๒๗ ก.พ. ขณะที่อาจารย์เวรช่างกลปทุมวันพบปืนแบลงก์กันดัดแปลงวางอยู่ในห้องน้ำอาคารเรียน รีบแจ้งตำรวจมาเก็บไปตรวจสอบหลักฐาน พบเป็นขนาด .๓๘๐ ขึ้นลำแล้วพร้อมเครื่องกระสุนรวม ๖ นัด ตรวจสอบวงจรปิดล่าตัวเจ้าของมาดำเนินคดีกรณีปัญหาการทะเลาะวิวาทของ นศ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ที่มีมาอย่างยาวนาน สถานการณ์ล่าสุดมีการสร้างเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก วางแผนก่อเหตุล่าสังหารกันอย่างโหดเหี้ยมจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทำเอาประชาชนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกลูกหลงเสียชีวิตไปด้วย ประกอบกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต้องการพื้นที่ตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายคืน ฟ้องร้องไปยังศาลปกครองสูงสุดจนมีคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ หลายฝ่ายขานรับเห็นด้วยเพื่อแยกคู่กรณีออกจากหัน เชื่อว่าทำให้เหตุรุนแรงกลางเมืองลดลง แต่ถูกต้านจาก นศ.และศิษย์เก่าอย่างต่อเนื่องความคืบหน้าจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อเวลา๑๐.๐๐น.วันที่ ๙ ก.พ. ตัวแทนกลุ่มศิษย์เก่าอุเทนถวายจำนวน ๑๒ คน นำโดยนายธนัช วชิระบงกช เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการย้ายอุเทนถวายออกจากพื้นที่เดิม โดยมี น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการอว.และโฆษก อว. รับมอบหมายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดีรัฐมนตรีว่าการอว.เป็นผู้แทนรับหนังสือที่อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ถนนโยธีนายธนัช วชิระบงกช กล่าวว่า วันนี้พวกตนเป็นตัวแทนกลุ่มศิษย์เก่าอุเทนถวายที่ต้องการมาชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงจุดยืนคัดค้านการย้ายอุเทนถวายออกจากพื้นที่เดิม เพราะอุเทนถวายควรได้รับการรักษาไว้ให้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ด้านสถานที่เพื่อการศึกษาที่สืบทอดให้ความรู้มาเกือบ ๑๐๐ ปี สถานที่อุเทนถวายมีพื้นที่ ๒๑ ไร่ คิดเป็นแค่ร้อยละ ๑.๘๒ ของพื้นที่ทั้งหมด ๑,๑๘๓ ไร่ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอ้างเป็นผู้ครอบครองโดยชอบธรรม ไม่เห็นความจำเป็นต้องเอาสถานที่อุเทนถวายที่ใช้เพื่อการศึกษาอยู่แล้ว นำไปขยายพื้นที่การศึกษาของจุฬาฯ ควรพิจารณาจากพื้นที่ที่ใช้เพื่อการพาณิชย์กลับคืนมาเพื่อการศึกษามากกว่า“ส่วนปัญหาเรื่องการทะเลาะวิวาทของนักศึกษา ศิษย์เก่าอุเทนถวายขอยืนยันว่า ไม่เคยสนับสนุนให้เกิดการทะเลาะวิวาทและวัฒนธรรมที่ผิดเพี้ยน การย้ายพื้นที่ไม่ใช่ทางออกการแก้ปัญหา เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด พวกผมพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อเข้าไปร่วมแก้ปัญหาและสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อเปลี่ยนภาพจำของผู้คนในสังคมที่มีต่อนักศึกษาอุเทนถวายให้ได้ ทั้งนี้ในวันที่ ๒๗ ก.พ. ศิษย์เก่าอุเทนถวายหลายร้อยคนจากทั่วประเทศจะนัดรวมตัวที่กระทรวง อว. เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการย้ายพื้นที่” นายธนัชกล่าวด้าน น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ กล่าวว่า การย้ายพื้นที่อุเทนถวายไม่ได้เกิดขึ้นจากปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักศึกษา แต่เป็นเพราะกระทรวง อว.และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเท่ากับละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้กระทรวง อว.พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงใจ หาข้อยุติ เป็นที่มาของการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการยุติข้อพิพาท มีผู้เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้เสีย ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันของอุเทนถวายเข้าร่วม อยากฝากให้ตัวแทนศิษย์เก่าช่วยสร้างความเข้าใจกับศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันถึงเหตุผลดังกล่าว ไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิด ขอยืนยันว่า อว.จะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นธรรม และยึดประโยชน์นักศึกษาเป็นสำคัญที่ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เวลา ๑๑.๐๐ น. ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน รับแจ้งจากอาจารย์สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พบอาวุธปืนวางทิ้งไว้ในห้องน้ำอาคารพระประกอบกลกิจ ภายในสถาบัน ประสานกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำรวมชายหญิงชั้น ๔ พบปืนแบลงค์กัน แบบแม็กกาซีนสีทูโทน ยี่ห้อโซรากิ เอ็ม ๙๐๖ ซาติน ทีดี ขนาด๙มม. เปลี่ยนลำกล้องใช้เครื่องกระสุนขนาด ๓๘๐ มม. มีกระสุนค้างในรังเพลิง ๑ นัด และแม็กกาซีนอีก ๕นัด วางอยู่บนที่ใส่ม้วนกระดาษชำระ ตรวจยึดไว้เป็นของกลางอาจารย์ประจำอาคารให้รายละเอียดว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติ ทุกวันจะมีพนักงานทำความสะอาดดูแลห้องน้ำเป็นประจำ ช่วงก่อนเที่ยงไปเข้าห้องน้ำพบปืนดังกล่าว คาดว่าเป็นของนักศึกษาที่เข้าห้องน้ำก่อนหน้าแล้วลืมไว้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมอบอาวุธปืนดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ พฐ. เพื่อนำไปตรวจหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทั้งลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ และร่องกระสุนว่าเกี่ยวกับคดีใดหรือไม่ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ชั้นดังกล่าว เพื่อหาเจ้าของปืนมาดำเนินคดีต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
