Monday, 23 September 2024

ETDA แก้โกงเก็บเงินปลายทาง ๖ เดือนกฎหมายคุมแพลตฟอร์ม เล็งใช้ประกาศ สคบ.คุมเข้ม

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เปิดเผยว่า หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือกฎหมาย DPS (Digital Platform Service) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม๒๕๖๖ หรือผ่านไปราว ๖ เดือนแล้ว แนวทางการกำกับดูแลจะเข้มข้นขึ้น โดยหลังจากที่มีแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาแจ้งการประกอบธุรกิจแล้ว ๑,๑๖๘ แพลตฟอร์ม ขั้นตอนต่อไปคือการต้องยื่นแจ้งรายงานประจำปีเพื่ออัปเดตข้อมูล อาทิ รายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในไทย จำนวนและประเภทผู้ใช้บริการ เป็นต้น รวมถึงการแจ้งข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการ (Terms & Conditions: T&C) ให้ผู้ใช้บริการทราบภายในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์๒๕๖๗ นี้ด้านนางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวต่อว่า ข้อมูลข้างต้นเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ETDA เห็นภาพบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลในไทยได้ชัดเจนขึ้น ก้าวต่อไปเป็นการยกระดับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความโปร่งใส เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ETDA ยังเตรียมขอออกเครื่องหมายรับแจ้ง DPS หรือ “ETDA DPS Notified” เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวตน เมื่อเกิดเหตุหรือปัญหาสามารถติดต่อได้ มีมาตรการในการบรรเทาความเสียหายและการชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การดูแลของกฎหมาย DPSนางสาวจิตสถากล่าวอีกว่า ETDA ยังดำริให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการกำกับดูแลแพลตฟอร์มมีความหลากหลาย และเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน หากไม่มีการประสานงานกันแล้วอาจเป็นภาระกับผู้ประกอบการ นอกจากนั้นในช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมา ETDA ยังได้ออกข้อเสนอการวางมาตรฐานว่าด้วยบริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery) สำหรับบริการอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากพบปัญหามากมายโดยเฉพาะจากการสั่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ได้สินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจากการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าอาจต้องแก้ไขปัญหาผ่านการออกประกาศภายใต้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยให้บริษัทขนส่งสินค้าเก็บรักษาเงินของลูกค้าไว้ชั่วคราว เพื่อให้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อน แทนที่จะจ่ายเงินตรงให้ผู้ค้าทันทีนอกจากนั้นยังกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในการกำหนดให้แพลตฟอร์มขนส่งประเภท Ride-hailing ได้แก่ แกร็บ เป็นบริการแพลตฟอร์มที่มีลักษณะเฉพาะและกำหนดหน้าที่เพิ่มเติม, แนวทางการดูแลโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล, แนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มประเภทบริการคลาวด์ และแนวทางการจัดทำกรอบความร่วมมือในการดำเนินคดีอาญาตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่