Thursday, 19 December 2024

“ภคมน” แนะ “อัครเดช” เลิกกล่าวหาคนอื่นใช้วาทกรรมแบ่งแยก แนะทบทวนสาเหตุขัดแย้ง

“ภคมน” แนะ “อัครเดช” เลิกกล่าวหาคนอื่นสร้างวาทกรรมแบ่งแยก ลองทบทวนต้นตอความขัดแย้งการเมืองไทย และสิ่งที่ควรไม่สบายใจ ไม่ใช่คำพูด “พิธา” แต่คือการผลักคนเห็นต่าง จนไม่มีพื้นที่พูดคุยหาทางออกวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุ ไม่สบายใจที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่แบ่งแยกคนในสังคม ว่า ถ้า นายอัครเดช ฟังสิ่งที่ นายพิธา สื่อสารแล้วไม่สบายใจ นั่นอาจเป็นปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับการตีความของ นายอัครเดช เอง ทั้งนี้ สิ่งที่ นายพิธา พูด คือการพยายามเชิญชวนให้สังคมมองกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และเหตุการณ์ขบวนเสด็จฯ โดยไม่แยกขาดจากการเมืองภาพใหญ่ เพราะไม่ว่า นายอัครเดช จะยอมรับหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงคือความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไทย โดยเฉพาะที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมที่นำโดยคนรุ่นใหม่เมื่อปี ๒๕๖๓ วันนี้ยังคงอยู่ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงก็คือสิ่งที่ นายพิธา เรียกว่าความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจ“สิ่งที่น่าไม่สบายใจ ไม่ใช่คำพูดของ พิธา แต่คือการที่สังคมไทยยังไม่มีพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายที่เห็นต่างกันได้พูดคุยเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง กลับใช้นิติสงครามกดปราบ ผลักไสอีกฝ่ายเป็นคนไม่รักชาติ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือลุกลามเป็นการใช้กำลัง หวังให้อีกฝ่ายไม่เหลือที่ยืน นี่ต่างหากคือสิ่งที่น่าไม่สบายใจ น่าเป็นห่วงต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย”รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวต่อไปว่า ขอให้ นายอัครเดช ซึ่งด้วยวัยวุฒิเรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เลิกกล่าวหาคนอื่นใช้วาทกรรมแบ่งแยก และลองทบทวนดูว่าความขัดแย้งตลอดหลายสิบปีในสังคมไทยเกิดจากอะไรกันแน่ สิ่งใดที่แบ่งแยกคนออกจากกัน เป็นเพราะคำพูดของคนไม่กี่คน หรือเพราะประชาชนรับรู้ถึงความผิดปกติ ความอยุติธรรม ว่ามันมีอยู่จริง ถ้าตั้งหลักแบบนี้ได้ นายอัครเดช และพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะพรรครัฐบาล สามารถมีบทบาททำให้ความขัดแย้งเหล่านี้คลี่คลายลง แม้การกระทำที่ผ่านมาของ นายอัครเดช และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำให้ตนคาดหวังได้ยาก แต่ก็ขอฝากให้พิจารณา.