ศาลอาญาออกหมายจับ “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” โกง “หุ้น STARK” หลังไม่ไปรับทราบคำสั่งอัยการ ด้าน รรท.อธิบดีดีเอสไอ ยอมรับผู้ต้องหาบอลลูนหัวใจจริง ส่ง ๔ เจ้าหน้าที่จับตาดูถึงห้องพักที่โรงพยาบาล ยันยังไม่จับกุมแต่ป้องกันการหลบหนีก่อนถึงวันส่งฟ้องศาล อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูอาการหลังผ่าตัดอาการดีขึ้นหรือไม่ หากยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่าที่ควรต้องประเมินกับแพทย์ผู้ตรวจรักษาอีกครั้งกรณีนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาทุจริตในบริษัทสตาร์ค ได้ประสานผ่านทนายความขอเลื่อน เข้าพบพนักงานอัยการ ให้เหตุผลว่า มีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ๑ จึงมีหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์๖๗ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ติดตามตัวนายวนรัชต์มารับฟังคำสั่งฟ้อง หลังไม่มารายงานตัวตามกำหนดนัด ขอให้จัดการติดตามให้ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในอายุความ ๑๕ ปี นับแต่วันกระทำความผิดล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๐ ก.พ. มีรายงานจากศาลอาญา พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอ หมายจับนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้น รายใหญ่ทายาทตระกูลธุรกิจสีทีโอเอ ผู้ต้องหาที่ ๒ ในความผิดฐานเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริตไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบความระมัดระวังและความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา ๘๙/๗ จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวในการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการบริษัทย่อย และผู้บริหารบริษัทย่อย, กรรมการผู้จัดการหรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงาน ของนิติบุคคลใดตาม พระราชบัญญัตินี้ โดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคล ที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงาน ของนิติบุคคลใดตาม พระราชบัญญัตินี้กระทำหรือยินยอมให้กระทำ (๑) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับ นิติบุคคลดังกล่าว ( ๒) ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความ สำคัญในบัญชี หรือเอกสารของนิติบุคคล หรือที่เกี่ยวกับ นิติบุคคลนั้น หรือ (๓) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ หรือลวงบุคคลใดๆ, ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควร บอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๔๑, ๓๔๓ ในคดีทุจริตใน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตาม หนังสือด่วนที่สุดของสำนักงานอัยการคดีพิเศษถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลมีรายงานว่า ศาลอาญาพิจารณาเหตุและคำร้อง แล้วได้อนุญาตออกหมายจับแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าคุมตัวนายวนรัชต์ ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นลักษณะเฝ้าคุมตัวเพื่อรอศาลเปิดทำการ เตรียมนำตัว ส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องต่อศาลอาญา คาดว่าจะเป็นวันที่ ๑๒ ก.พ. โดยขั้นตอน ปกติพนักงานสอบสวนจะต้องคุมตัวส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อนำตัวไปยื่นฟ้อง หรืออาจจะนำตัวไปที่ศาลอาญาและนัดกับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเลย อัยการ สำนักงานคดีพิเศษมีการร่างฟ้องรอไว้แล้วเหลือเพียง นำตัวมาฟ้องวันเดียวกัน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายหลังศาลออกหมายจับนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาทุจริตใน บริษัทสตาร์ค แต่ทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้ารับการผ่าตัด ทำบอลลูนหัวใจอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเฝ้าระวังผู้ต้องหาอย่าง เข้มงวด เพื่อป้องกันการหลบหนี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ๔ นาย จากศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาและเฝ้าผู้ต้องหาไว้ ทั้งนี้ รับทราบว่า ผู้ต้องหาเข้ารับการผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว อาการปลอดภัย จากนี้ยังต้องติดตามดูอาการว่าหลังการผ่าตัด ผู้ต้องหาสามารถให้การช่วยเหลือตัวเองได้ หรือไม่ ถ้าภายหลังการผ่าตัดยังไม่หายดี ยังให้การช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่าที่ควร จะต้องประเมินกับทาง แพทย์ผู้ตรวจรักษาอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีได้แน่นอน และต้องชี้แจงว่าในวันนี้ เรายังไม่ได้จับกุม แต่ว่าไปขอหมายจับจากศาลเพราะ เกรงว่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จากนั้นให้เจ้าหน้าที่เฝ้าผู้ต้องหาไว้ก่อนถึงวันส่งฟ้องต่อศาลสำหรับคดีทุจริต STARK พนักงานอัยการฯ ยื่นฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว ๗ ราย ล่าสุด เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์๖๗ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพิ่มเติมอีก ๒ รายคือ น.ส.ยสบวร อำมฤต และนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐ ในความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.๒๕๓๕ ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐาน ฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน โดยนายกิตติศักดิ์ได้ยื่นขอประกันตัว แต่ศาล มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่า คดีนี้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนจำนวนมาก มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างและมีมูลค่าความ เสียหายสูง เป็นกรณีร้ายแรง หากปล่อยชั่วคราวมีเหตุ อันควรเชื่อว่าจะหลบหนี ศาลฯไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่วน น.ส.ยสบวรไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้ง ๒ รายไปยังเรือนจำทันทีอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
