วัยโจ๋เลือดร้อน ๒ กลุ่ม เจอกันกลางดึกหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้ถนนเลียบคลองมอญ ก่อนแยกย้าย แต่อีกฝ่ายไม่จบ ๒ อริขี่ไล่กวดตามหลังยิงใส่คู่กรณีที่ซ้อน ๓ กระสุนเจาะขมับหนุ่มโชคร้าย วัย ๑๗ นศ. OBAC ร่วงจากรถเสียชีวิต อีก ๒ คน ถูกยิงเจ็บแต่ยังขี่ จยย.กระเสือกกระสนมาขอ ความช่วยเหลือชาวบ้านส่ง รพ.อาการปลอดภัย ด้านตำรวจ บก.น.๓ ไล่ตามจับคนร้ายได้ทันควันเป็นเยาวชน เรียนอาชีวะทั้งคู่ สารภาพไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน เป็นเรื่องการโชว์อาวุธท้าทายกันก่อนเรื่องบานปลาย พนักงานสอบสวนแจ้ง ๕ ข้อหาหนัก ส่งศาลเยาวชนทันทีเหตุเยาวชนใช้ความรุนแรงขี่ จยย.ไล่ฆ่ากันในเมืองกรุงครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น.วันที่ ๑๐ ก.พ. ร.ต.อ.กฤษธเนศ พงษ์ชู รอง สว. (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต ริมถนนเลียบคลองมอญ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กู้ชีพสุวรรณภูมิ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนพบร่างนายธนากร ชิดโคกสูง อายุ ๑๗ ปี ชาว จ.ขอนแก่น นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกวิทย์บริหารธุรกิจ หรือ OBAC นอนหงายหายใจรวยรินใส่เสื้อแจ็กเกตมีฮู้ดสีแดง กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ขมับซ้าย ๑ นัดแขนซ้าย ๑ นัด กู้ชีพพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมาไล่เลี่ยกัน ร.ต.อ.กฤษธเนศ รับแจ้งมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ ๒ ราย บริเวณปากซอยลาดกระบัง ๕๐/๒ แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. ห่างจุดเกิดเหตุถนนเลียบคลองมอญประมาณ ๕ กิโลเมตร อาสาสมัครนำตัวส่ง รพ.ลาดกระบัง อาการปลอดภัย ตามไปสอบปากคำทราบชื่อคือนายซี (นามสมมติ) อายุ ๑๖ ปี ชาว จ.มหาสารคาม ถูกยิงที่แขนซ้าย ๑ นัด อีกคนอายุไล่เลี่ยกันถูกยิงสะโพกขวา ๑ นัด เรียนที่เดียวกับผู้ตายสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนกับนายธนากร ผู้เสียชีวิต นายธนากรนั่งซ้อนท้าย จยย. มากับนายซีและเพื่อนรวม ๓ คน จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.มากัน ๓-๔ คัน ปรี่เข้าประกบใช้ปืนยิงจนผู้ตายตกรถตรงถนนเลียบคลองมอญ ส่วนเพื่อนอีก ๒ คนถูกยิงบาดเจ็บแต่พยายามขี่ จยย.หนีมาจนถึงปากซอยลาดกระบัง ๕๐/๒ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ ตรวจสอบริมถนนเลียบคลองมอญ พบปืนไทยประดิษฐ์ เป็นแท่งเหล็กยาว ๑ คืบ และปลอกกระสุนลูกซองสีแดง ไม่ทราบขนาดตกอยู่ ๑ ปลอก รวบรวมไว้เป็นหลักฐานต่อมานางปลาย นวลจำปา อายุ ๖๓ ปี ย่านายธนากรผู้เสียชีวิต เดินทางมาจุดเกิดเหตุกล่าวทั้งน้ำตาว่าเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ ๑ ขวบ วันนี้ตอนเช้าไปส่งขึ้นรถสองแถวไปโรงเรียนจนดึกยังไม่กลับบ้าน สอบถามทราบว่า อยู่กับเพื่อนกำลังจะไปร้านสะดวกซื้อจนมาทราบจากตำรวจว่าหลานถูกยิงตาย ที่ผ่านมาหลานไม่เคยมีอริที่ไหน กลุ่มเพื่อนๆบอกกันว่าพวกมันยิงดะไม่รู้ใครเป็นคนยิง ฝากถึงคนร้ายอย่าไปยิงใครอีกให้ศพหลานย่าเป็นคนสุดท้ายแล้วกันกระทั่งเวลา ๐๓.๐๐ น. วันที่ ๑๐ ก.พ. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.๓ พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.๓ นำกำลังฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย ติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จับกุมนายเอ (นามสมมติ) อายุ ๑๗ ปี ได้ที่บ้านพักถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม.และนายบี (นามสมมติ) อายุ ๑๗ ปี คนขี่รถ จยย. จับได้ที่บ้านพักถนนทับยาว แขวงทับยาว กทม. ๒ ผู้ก่อเหตุ สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพเป็นนักศึกษาอาชีวะสถาบันแห่งหนึ่ง สาเหตุมาจากการเคยเขม่นกันมาก่อนหน้าต่อมาเวลา ๐๘.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุม ๒ เยาวชนผู้ก่อเหตุไปชี้จุดเกิดเหตุยิงนายธนากร เสียชีวิต จุดแรกเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นลีด ๑๒๕ สีขาวน้ำตาล ทะเบียน ๗ ขฉ ๖๖๐๘ กรุงเทพมหานคร นายเอคนที่ซ้อนท้ายใช้ปืนไทยประดิษฐ์จ่อยิงใส่คู่กรณีที่ขี่รถอยู่ด้านหน้า จุดที่ ๒ เป็นจุดที่หลังก่อเหตุ คนร้ายวนรถ จยย.กลับ มุ่งหน้าไปทางแยกคลองมอญ เมื่อผู้ต้องหาชี้จุดเสร็จคุมตัวกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อยพล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น. ๓ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพ มูลเหตุจูงใจเบื้องต้นเป็นเรื่องส่วนตัวมาเจอกันโดยบังเอิญไม่เกี่ยวกับสถาบัน ก่อนเกิดเหตุทั้ง ๒ กลุ่มมีปากเสียงกันที่ร้านสะดวกซื้อลักษณะท้าทายโชว์อาวุธ เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มคู่อริเก่าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ต่อมากลุ่มผู้เสียชีวิตขี่ จยย.มายังจุดเกิดเหตุมีผู้ก่อเหตุ ๒ คนขี่ จยย.ตามมาก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตตกจาก จยย. เพื่อนที่มาด้วยกันแยกย้ายหลบหนีและไปโรงพยาบาล ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปืนไทยประดิษฐ์และมีดจากทั้ง ๒ ฝ่าย เบื้องต้นแจ้งข้อหา ๒ เยาวชนที่ก่อเหตุ ๕ ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนในทางสาธารณะ, และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนี้ต้องร่วมกับสหวิชาชีพสอบปากคำเพราะผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน พร้อมคุมตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
