Sunday, 17 November 2024

๒ ฝ่ายเห็นต่าง ออกแถลงการณ์โต้กัน เรียกร้องตำรวจดำเนินคดีผู้ทำผิดกฎหมาย

11 Feb 2024
75

กลุ่มปกป้องสถาบัน และผู้สนับสนุนเครือข่ายทะลุวัง ออกแถลงการณ์โต้กัน ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้ตำรวจใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ทำผิดวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ จากกรณีเครือข่ายทะลุวัง-ทะลุแก๊ส ปะทะกับเครือข่ายปกป้องสถาบัน บนสกายวอล์กสถานีรถไฟฟ้าสยาม จนได้รับบาดเจ็บทั้ง ๒ ฝ่าย เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ออกแถลงการณ์ใจความว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง ศปปส. ขอประณามการจัดการชุมนุมที่กระทบต่อสถาบัน และเป็นการจัดการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพราะไม่ได้จัดการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพราะมีการใช้กระบองเหล็ก หรือดิ้ว ที่พกพามาด้วยเป็นอาวุธ ทำร้ายร่างกายทุบตีสมาชิก ศปปส. หลายครั้งทำให้ได้รับบาดเจ็บต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังทำให้ประธาน ศปปส. ได้รับบาดเจ็บด้วย ศปปส. จึงขอประฌามการกระทำ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้มงวดและจัดการขั้นเด็ดขาด ที่ถึงขนาดเหิมเกริมขับรถยนต์ไล่จี้ขบวนเสด็จฯทางด้าน สมาคมนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งประกอบไปด้วย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ทำหน้าที่ดูแลคดีให้ทางกลุ่มและสหภาพคนทำงาน ฯลฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกลุ่ม ศปปส. เรื่องหยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่างทางความคิด โดยมีใจความสำคัญว่า การกระทำของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ขบวนเสด็จฯ กลุ่ม ศปปส. และกลุ่มปกป้องสถาบันควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายในการพิจารณาว่าเป็นความผิดหรือไม่ ส่วนการทำโพลในวันเกิดเหตุ เป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองที่อยู่ในขอบเขตที่สามารถทำได้ การที่กลุ่ม ศปปส. ใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายผู้เห็นต่างทางความคิด ไม่อาจถูกยอมรับให้เป็นวิธีการที่ชอบธรรมในการปกป้องสถาบัน และยังอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฃต่อสายตาชาวโลกได้ อีกทั้งยังทำให้สังคมตกอยู่ในความหวาดกลัวว่าอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่สังคมไทยเคยเผชิญ กลุ่ม ศปปส. ควรหยุดพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย สถาบันไม่ควรถูกใช้เป็นเหตุผลหรือข้ออ้างในการทำร้ายบุคคลใด และผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม ศปปส. ควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาแทนการใช้ความรุนแรง ดังนั้น เพื่อไม่ให้กลุ่มปกป้องสถาบันใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางความคิดอย่างต่อเนื่องต่อไป เจ้าพนักงานตำรวจควรดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มคนดังกล่าวทุกคน และติดตามสืบสวนผู้โพสต์ขู่เอาชีวิต น.ส.ตะวัน เพื่อยับยั้งการใช้ความรุนแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของนักกิจกรรม และควรเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มปกป้องสถาบันที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงอย่างใกล้ชิด เหมือนที่เฝ้าติดตามนักกิจกรรมทางการเมืองด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตนได้อย่างปลอดภัยตามที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้ และหากฝ่ายใดทำผิดกฎหมายก็ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมภายใต้มาตรฐานเดียวกัน.