ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนปีมังกร การเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนแผ่นดินใหญ่ ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ เที่ยวกันสนุกสนานรับ “แต๊ะเอีย-อั่งเปา” กันสำราญบานใจเงินสะพัด วงการทองคำคึกคัก ฤดูของความมั่งคั่งร่ำรวยและเหมือนจะถูกยึดเป็นข้อมูลอ้างอิง ตรุษจีน คือเทศกาลที่สามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้เป็นอย่างดีแบบที่สื่อมวลชนหลายสำนักมักจะลงพื้นที่สำรวจตลาด สอบถามจากปากพ่อค้าแม่ขาย ประเมินการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในการซื้อหมู เป็ด ไก่ ผลไม้ ขนม ของไหว้ตามประเพณีประมวลผลจากข้อมูลดิบแบบง่ายๆ ไม่ต้องวิเคราะห์tt ttชัย วัชรงค์แต่ที่เป็นหลักทางวิชาการ มาตรฐานความน่าเชื่อถือก็คือโพล ตามตัวเลขแบบที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดผลสำรวจการใช้จ่ายตรุษจีนปีนี้ มีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา มูลค่าการใช้จ่ายของประชาชนมากกว่า ๔๙,๕๕๘ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๐.๑ เปอร์เซ็นต์ จากตัวเลขปี ๒๕๖๖โดยแนวโน้มเศรษฐกิจผงกหัวขึ้น สัญญาณบวกทิศทางดีพ่อค้า แม่ขาย ร้อง “เซงลี้ฮ้อ” บอก เฮงๆปังๆและนั่นก็เป็นอะไรที่ย้อนแย้ง สวนทางกับรัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง นำทีมหางเครื่องพรรคเพื่อไทยรัวเกราะเคาะกลองเป็นสัญญาณเตือนเศรษฐกิจกำลังวิกฤติอารมณ์ขึงขังแบบที่ “โทรโข่งหมอไก่ชน” นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ป่าวประกาศเป็นเชิงเขย่าขวัญชาวบ้านร้านตลาด กระตุกต่อมสะดุ้งนักลงทุน กระทุ้งนักการเมืองฝ่ายค้าน กระแทกนักเศรษฐศาสตร์ขู่เลยว่า ถ้าไม่เร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบได้เจอวิกฤติแท้จริงแน่ทีมทำเนียบฯโหมควัน เร้าสัญญาณอันตราย ไฟต์บังคับต้องรีบอัดฉีด “ดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท” ลุยเทกระจาดโครงการประชานิยม กระตุ้นฐานราก ประคอง ปากท้องประชาชนกำลังตกอยู่ในภาวะลำบากสาหัส นั่นไม่เท่ากับพยุงปีกรัฐบาลเพื่อไทยที่โดนต้อนเข้ามุมอับ ขยับไม่ออกโดนล็อกไม่ให้ใช้เงินหลวงตามอำเภอใจ เบรกเจ้าตำรับ “โคตรประชานิยม” ไม่ให้จัดโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม แลกคะแนนเสียงทางการเมืองหมดโอกาสมือเติบกับงบประมาณแผ่นดินง่ายๆในสถานการณ์ที่ต้องออกแรงอย่างหนัก ยื้อยุดฉุดกระชากลากถูกับฝ่ายคัดค้านโครงการเทกระจาด “ดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท”แนวต้านแปรรูปขบวนขวางลำแข็งแกร่งราวกับภูผาทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นักวิชาการ อาจารย์เศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไม่เอาด้วยกับสูตรเศรษฐศาสตร์ห้องแถว แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจภายในแบบประเดี๋ยวประด๋าวเป็นการก่อปัญหาหนักในระยะยาว เพราะปัญหาแท้จริงมันอยู่ที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ของประเทศไทย ทั้งสถาน การณ์ของสังคมผู้สูงอายุ และแรงงานที่ขาดทักษะรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัลมัวแต่มอมเมากันด้วยประชานิยม เสี่ยงวินัยการเงิน การคลังประเทศพังสถานะองค์กร คณะบุคคล ที่ล้วนต้นทุนทางสังคมสูง พลังต้านมหาศาลแต่นั่นไม่กระตุกอาการ “นะจังงัง” เท่ากับมนต์ขลังๆ เสียงกระแอมดังๆของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงอย่างเป็นทางการ พร้อมร่อนสารไปถึงรัฐบาลประทับตรา มติขององค์การ “ปราบโกง” ส่งข้อเสนอแนะให้นายกรัฐมนตรีใช้ประกอบการตัดสินใจในการเดินหน้าเสี่ยง “ลุยไฟ” ด้วยเท้าเปล่าแปะข้างฝา “บัญญัติ ๘ ประการ” ข้อพึงระวัง ป้องกัน มิให้เกิดการทุจริตหรือเกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของรัฐหรือประชาชนtt ttศิริกัญญา ตันสกุลดูเหมือนข้อห่วงใยทั่วไป แนะนำกันตามปกติที่สำคัญไม่มีผลทางกฎหมายผูกพันใดๆ ต่อการลาก “เรือธง” พรรคเพื่อไทยไม่มีฐานความข้อหาละเมิด “บทจุ้นจ้าน” ของ ป.ป.ช.แบบที่ “ด็อกเตอร์ไหม” น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้า กัปตันทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ฟันธง คำแนะนำของ ป.ป.ช.เป็นเพียงการทำหน้าที่ตามมาตรา ๓๒ แต่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.แนะนำให้รัฐบาลเร่งสรุปโครงการจะเดินหน้าในวิธีการใดมากกว่า“อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เหน็บแสบๆคันๆ จากที่อ้างคณะกรรมการกฤษฎีกา อ้าง ป.ป.ช. ตอนนี้รัฐหมดข้ออ้าง ต้องตัดสินใจโครงการเทกระจาดดิจิทัล วอลเล็ตฯเยาะแกมหยัน ยุส่งให้รัฐบาลเดินหน้าลุยต่อฝ่ายค้าน ทั้งก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ไม่มีท่าทีในการสกัดขัดขวางเรือธงของพรรคเพื่อไทย ตรงกันข้าม ช่วยโบกไม้โบกมือเปิดทางให้อีกต่างหากถ้าไม่บังเอิญว่า หนทางข้างหน้าไม่ชัวร์ว่า สวรรค์ หรือนรกที่แน่ๆสถานะของฝ่ายค้านไม่มีผลได้เสีย ความรับผิดชอบคนละเรื่องกับคนถือเดิมพันอย่างนายเศรษฐา ผู้นำรัฐบาลผสมสูตรพิสดารอาถรรพ์ “เดจาวู” ยังวนเวียนหลอนให้ผวาวิบากกรรมทุจริตจำนำข้าวของอดีตรัฐบาลเพื่อไทย “แผลบาดทะยัก” ยังเสี่ยงติดเชื้อใหม่ได้ทุกขณะในภาวะที่ผู้นำอย่างนายเศรษฐา “ภูมิคุ้มกัน” ตกต่ำพลาดพลั้งทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตฯเจ๊ง หนีไม่พ้นโดนกระหน่ำซ้ำ จากคำแนะนำของ ป.ป.ช.จะยกระดับเป็น “คำเตือน” ที่ฝ่ายบริหารไม่ยอมรับฟัง ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่องบประมาณแผ่นดินเสี่ยงติดเงี่ยงทุจริตเชิงนโยบาย ใช้เงินหลวงแฝงหาเสียงหวังผลทางการเมืองตามท้องเรื่องหนังสยองขวัญ “ม้วนเดิม” ที่ทำให้นายเศรษฐา และทีมพรรคเพื่อไทยยังกล้าๆกลัวๆอาศัยพิงแรงของฝ่ายต่อต้าน เด้งเชือกดึงเช็งไปพลางๆแต่สถานการณ์มาถึงตรงนี้ดูเหมือนผู้นำอย่างนายเศรษฐาจะไม่มีจังหวะให้เด้งเชือกต่อไป หลังผ่านการบริหารมาครึ่งปี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลยังไม่มีอะไรจับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอันมีแต่คิวโชว์อีเวนต์รายวัน แบบที่ต้องออกแรงเหนื่อยหนักในการลากเรือธงดิจิทัล วอลเล็ตฯ หรือการเอาล่อเอาเถิด ทั้งบีบทั้งทุบแบงก์ชาติให้เดินนโยบายการเงินไปในทางเดียวกับนโยบายการคลังของรัฐบาลธปท.ไม่เอาด้วยกับมุกลดแลกแจกแถม ขึงดอกเบี้ยนโยบายไปนิ่งๆท้าทายเชิงบริหารของเบอร์หนึ่งรัฐบาลtt ttแพทองธาร ชินวัตรในสถานการณ์ “อำนาจเชิงซ้อน” ที่แรงขึ้นตามจังหวะใกล้พักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลุ้นเช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ได้สิทธิ ตามกฎของกรมราชทัณฑ์ สถานะของผู้ต้องขังอายุเกิน ๗๐ ปี มีอาการเจ็บป่วย และรับโทษคุมขังจำนวน ๒ ใน ๓ ไปแล้วแนวโน้มกระแสไหลไปให้น้ำหนักกับแผนสลับฉากให้ “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนมานั่งเบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า กู้แต้มนิยมทางการเมืองของทีม “ทักษิณ” ที่ติดลบหนักเป็นนายกฯดีเอ็นเอ “นายใหญ่” ตัวจริงเสียงจริงแต่แผนเสียบสะท้านโลกันตร์ โดนช็อตฟีล กระตุกอย่างแรง ตามคิวแทรกกะทันหัน อัยการสูงสุดร่อนหมาย “อายัดตัว” ล่วงหน้า ในคดีเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ ที่ตกค้างอยู่ในสารบบกระบวนการยุติธรรมทำให้คิวกลับคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้าแบบเท่ๆต้องสะดุดท่ามกลางเสียงวิเคราะห์ กูรู กูรู้ เดากันไปต่างๆนานา ทางหนึ่งก็มองโลกสวย เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่เสี่ยงติดเงี่ยงมาตรา ๑๕๗ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่แต่ถึงเวลาก็ไฟเขียวให้ประกันตัว กลับไปสู้คดีที่บ้านพลางตัว พลางกระแส สับขาหลอกฝ่ายต้าน “ทักษิณ” ไปในทีแต่ก็มีพวกมองโลกแง่ร้าย อ่านทะลุเกมลึก ยุทธการ “ล็อกคอ” ป้องกันเสือหลุดเข้าป่าอาละวาด ย้อนตะปบฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทย ไปแท็กทีมกับขบวนการเด็กอันตรายตามเหลี่ยมเกมที่ออกแบบตามเงื่อนไขสถานการณ์ ดีลอำนาจไม่นิ่ง ยังพลิกได้หลายหน้าท้าทายโคตรเซียนอย่าง “ทักษิณ” ต้องคิดหนัก ดีดลูกคิดหลายตลบขืนเดินหมากพลาดเจ๊งคากระดานตอนโดนล็อกซะแล้ว หมดโอกาสเฮี้ยว.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
