“หลวงตาเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผย ๒ ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ เตรียมเข้าให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนคดี “ก๊วนศรีสุวรรณ” ตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ยันมาลักษณะพูดคุยไม่ใช่สอบปากคำ ขณะเดียวกัน วีระ สมความคิด และผู้เสียหายรายอื่นๆจะมาให้ข้อมูลด้วย ปปป.ตรวจพบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินกลุ่มผู้ต้องหา คาดได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เข้าข่ายฟอกเงิน ชง ปปง.อายัดทรัพย์สิน ในที่ประชุมอาทิตย์หน้ากรณี “ก๊วนศรีสุวรรณ” ตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต ล่าสุดเมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น.วันที่ ๑๑ ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน จิระพุทธิภาคย์ เรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับสำนักนายกรัฐมนตรีมาให้ข้อมูลหลายราย รวมทั้งบุคคลที่เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ๒ ราย ที่นำข้อมูลมาให้กับคนกลุ่มนี้จะเข้าพบในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่เป็นเพียงการพูดคุยยังไม่ได้สอบปากคำอย่างเป็นทางการ โดยวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาคนใกล้ชิดนายศรีสุวรรณที่ได้ประสานมารับทราบข้อกล่าวหา รวมถึงนายวีระ สมความคิด จะเข้ามาให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ด้วยเช่นกัน ส่วนผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มนี้ตบทรัพย์ต่างแสดงความจำนง จะทยอยเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวยืนยันว่า เส้นทางการเงินในวงนี้ชัดเจนถึงทุกคน รวมถึงหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะไล่ไปดูทุกวง แต่สิ่งสำคัญคือผู้เสียหายจะให้การหรือไม่นั้นเป็นเรื่องหนักใจของชุดสืบสวน ข้อมูลเบื้องต้นผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำมาหลายคดี อยากได้ข้อมูลทุกคดีเพราะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจะสามารถดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ด้วยพล.ต.ต.จรูญเกียรติยังรับว่าการทำคดีนี้มีผลกระทบ เพราะมีการพูดไปถึงการทำลายพรรคการเมือง ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆทั้งสิ้นและข้อกฎหมายบางอย่างที่พูดถึง มองว่าคนที่พูดอาจจะให้ข้อมูลยังไม่เข้าใจบางเรื่อง สิ่งที่ตำรวจดำเนินการตรงประเด็นและข้อกฎหมาย เพราะศึกษาข้อมูลกันมาเพียงพอแล้ว ส่วนการสรุปสำนวนคดีจะรีบดำเนินการในวงของอธิบดีกรมการข้าวให้เรียบร้อยและเป็นแนวทางในการสืบสวนวงอื่นๆต่อไป จะใช้คดีต่างๆมาเป็นพยานแวดล้อมเพื่อให้สำนวนแน่นหนาขึ้นด้วย รวมถึงจะขยายวงที่กลุ่มนี้ไปกระทำความผิดให้ครบทุกวงทุกกลุ่มทั้งนี้มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้ประชุมหารือกันหลายรอบ หลังตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ พบเส้นทางการเงินรวมทั้งทรัพย์สินที่คาดว่าน่าจะได้มาอย่างไม่ถูกต้องหลายรายการ ทั้งนี้กลุ่มผู้ต้องหาถือว่ามีความผิดตามมูลฐานความผิดฟอกเงิน ดังนั้น พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้สืบสวนพิสูจน์ทรัพย์สินต่างๆ เสนอให้ ปปง.เพื่ออายัด ทั้งนี้ในส่วนของ ปปง.ก็มีรายละเอียดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาเช่นกัน พนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะนัดประชุมเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้าอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
