Sunday, 22 September 2024

“เศรษฐา” ลั่น ความปลอดภัยราชวงศ์เรื่องสำคัญสูงสุด ไม่ควรมีการให้ท้าย-ขบวนการ

“เศรษฐา” ลั่น ความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด เตือนเรื่องนี้ไม่ควรมีใครให้ท้าย และไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง ชี้ ความเห็นต่างมีได้ แต่ต้องใช้เวทีสภาฯ-นักวิชาการพูดคุย ย้ำ ฝ่ายความมั่นคงต้องดูแล วอนอย่าใช้ความรุนแรง เมื่อเวลา ๐๙.๒๐ น. วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสามย่านมิตร ว่า เมื่อวันที่ ๑๑ มภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เชิญถึงการเชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้อง หารือกันเรื่องมาตรการอารักขาความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความดูแลบุคคลสำคัญของประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กำชับให้ดูแลเรื่องดังกล่าวให้ดี เพราะไม่อยากให้มีการปะทะเกิดขึ้น อยากให้ประเทศอยู่ด้วยความสามัคคี ถ้ามีเวทีไหนที่เราเห็นต่าง ต้องเป็นเวทีที่เหมาะสมหรือเป็นเวทีที่นักวิชาการมาพูดคุยกันส่วนกรณีที่ตอนนี้มีหลายฝ่าย รวมถึงกองทัพ ออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาทำกันปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพก็รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว พร้อมระบุต่อไปว่า ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรืออย่างไร แต่ก็อยากจะวิงวอนในเรื่องของการใช้ความรุนแรง เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควร รัฐบาลไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือกองทัพก็อยากจะเห็นความสมัครสมานสามัคคี แน่นอนการเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมมีอยู่แล้ว ก็ต้องมาพูดคุยใช้เวทีที่ปลอดภัยและไม่เป็นที่คุกคามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่อยากจะขอวิงวอน อ้อนวอน ให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงจุดนี้ ประเทศเราก็เดินหน้ามาด้วยดีเรื่องความวุ่นวายเหล่านี้มันก็ไม่มีมานาน เราก็ไม่อยากที่จะให้เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงที่ต้องดูแลผู้สื่อข่าวต่อไป กังวลหรือไม่จะกลายเป็นเหตุความรุนแรง เนื่องจากล่าสุดก็เกิดการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มที่เห็นต่าง นายกรัฐมนตรี เผยว่า เรื่องการใช้กำลัง หรือการใช้ Hate Speech อยากให้ ๒ ฝ่ายลดทอนลงไป ควรใช้เวทีสาธารณะอื่นๆ ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาฯ หรือนักวิชาการ ในการพูดคุยกันในเวทีที่ปลอดภัยกว่านี้ ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากให้ประเทศชาติมีความปรองดอง ความสมัครสมานสามัคคี มีบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ ทุกฝ่ายก็ให้ความสำคัญ ตนก็ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปว่าต้องระมัดระวัง อย่าให้กระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความปลอดภัยของราชวงศ์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ขณะที่คำถามว่า พรรคก้าวไกลมองเรื่องนี้โดยเฉพาะความคิดเห็นทางการเมือง ควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม นายเศรษฐา ให้คำตอบว่า “ผมไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น ผมมองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดมีการคุกคามหรือการใช้กำลัง และไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมืองด้วย เพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง”สำหรับประเด็นกลุ่มเยาวชนที่ออกมาทำกิจกรรมก็ยังพูดถึงเรื่องของขบวนเสด็จฯ จึงทำให้เกิดการปะทะกัน ควรจะหยุดพฤติกรรมหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องการพูดคุยควรมีเวทีที่เหมาะสม เรามีตัวแทนของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีสภาฯ จะดีกว่าหรือไม่ เพราะเป็นเวทีที่ปลอดภัย และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ทุกฝ่าย ทุกพรรค และคนที่เรารักก็ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ทุกฝ่ายก็มีตัวแทนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีนี้เป็นเวทีพูดคุย ถ้าใช้เวทีอื่น เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะ อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน ตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะความจริงแล้วก็มีคนเดือดร้อน ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศเหมือนวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่เกิดการปะทะ เพราะมันไปสู่สายตาของชาวโลก ทุกประเทศก็มีการรักษาการรักษาผู้นำ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญสูงสุดเมื่อถามต่อไปว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานอย่างไรบ้างเรื่องการดำเนินคดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่าไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งอะไร ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อยากจะวิงวอนในเรื่องการใช้ความรุนแรงนอกจากนี้ ในคำถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี เผยว่า “ผมไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่ถ้าจะให้ผมพูดมันชัดเจนครับว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะมีการให้ท้าย ไม่ควรมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง เพราะขบวนเสด็จฯ เนื่องจากพระองค์ท่านมีภารกิจตลอดเวลา พระองค์ท่านทรงงานหนักทุกพระองค์ ฉะนั้น เรื่องของการเดินทาง ความสำคัญของพระองค์ท่าน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด และฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งผมบอกไปหลายหนแล้ว และผมใช้คำว่าใช้เวทีที่ปลอดภัย เรามีสภาฯ เรามีนักวิชาการ เราก็ไปพูดคุยในเวทีที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่มาใช้คำว่าท้าทาย เช่น ตามศูนย์การค้า หรือที่สาธารณะต่างๆ ไม่เหมาะสมหรอกเพราะ ผมเชื่อว่าไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้อง สถานที่ช้อปปิ้งต่างๆ มีคนที่ไปพักผ่อนกัน บรรยากาศแบบนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยว ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น โดยเฉพาะคนที่หวังดีกับประเทศชาติไม่มีใครอยากให้เกิดบรรยากาศนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”.