Thursday, 19 December 2024

ถก คกก.ศึกษาซื้อเรือดำน้ำ รอบสอง ๑๔ ก.พ. วอนทุกฝ่ายยึดประโยชน์ชาติเป็นตัวตั้ง

ผบ.ทร. เผย ประชุมคณะกรรมการศึกษาซื้อเรือดำน้ำ รอบสอง ๑๔ กุมภาพันธ์นี้ วอนทุกฝ่ายนำผลประโยชน์-ศักดิ์ศรีประเทศเป็นตัวตั้ง ร่วมหาทางออกที่เห็นพ้องกัน ก่อนเสนอ ครม. ยัน ทำหน้าที่รักษาเทิดทูนสถาบัน อธิปไตยทางทะเล รวมถึงผลประโยชน์ของชาติวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ที่แผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ ถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาเรือดำน้ำ หลังมีการประชุมคณะกรรมการศึกษาซื้อเรือดำน้ำครั้งแรก ว่า ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดกับทางคณะกรรมการแล้ว และจะมีประชุมอีกครั้งในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ใครที่ยังมีข้อสงสัยในเรื่องใดได้ซักถาม และขอให้เสนอความเห็นว่าเรือดำน้ำควรเดินหน้าในทิศทางใด เพื่อเสนอ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปเมื่อถามว่าหนทางแก้ปัญหาเรือดำน้ำมีทิศทางอื่นหรือไม่ เช่น เป็นเรือติดเครื่องยนต์จีน หรือเรือดำน้ำชาติอื่น พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า เปิดกว้างทุกหนทาง สุดแต่คณะกรรมการเสนอมา ซึ่งเราจะมาคุยกันมีข้อดีข้อเสีย และข้อเสนอนั้นเป็นไปได้หรือไม่ แต่ ๓ ข้อ รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ได้ให้นโยบายไว้ และจะเป็นปัจจัยกำหนดว่าเราจะเดินหน้าเรือดำน้ำอย่างไร คือ ให้ถามกองทัพเรือก่อนอยากเดินหน้าอย่างไร และดูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนถึงหนทางที่เลือกเป็นไปได้จริงหรือไม่ส่วนคำถามว่า ความต้องการของกองทัพเรือ ต้องการเรือดำน้ำติดเครื่องยนต์จีนหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุง ตอบว่า ความต้องการกองทัพเรือ คือสิ่งที่ตนสานต่อนโยบายผู้บังคับบัญชา และความฝันทหารเรือไทย รวมถึงยุทธศาสตร์กองทัพเรือที่กำหนดไว้ว่าควรจะต้องมี แต่หากคณะกรรมการมีทางออกอื่นที่ดีกว่า เราน้อมรับ รวมถึงน้อมรับการตัดสินของ ครม. ว่าเรื่องนี้ควรออกมาทิศทางใดขณะที่ในคณะกรรมการมีฝ่ายการเมือง ๓ คน หากความเห็นแตกต่างกันจะหาข้อสรุปอย่างไร พล.ร.อ.อะดุง เผยว่า การแก้ปัญหาอยากให้เป็นไปแนวทางการเห็นพ้องต้องกัน จะเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุด ในการประชุมกองทัพเรือจะพยายามชี้ให้เห็น ถ้าข้อตกลงเห็นพ้องต้องกันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะเสนอรัฐบาล เมื่อถามต่อไปว่าได้คุยกับ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ท่านมาครั้งแรก เรายินดีในคำถามของท่าน เราก็ตอบไป ท่านก็ตอบรับด้วยดี หวังว่าวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ทุกท่านจะนำผลประโยชน์ของประเทศมาเป็นตัวตั้ง ศักดิ์ศรีของประเทศมาวางไว้ตรงกลางผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า หากเดินหน้าเรือดำน้ำจีนต่อ ต้องใช้เวลา ๔ ปี ได้เตรียมรับมือการดูแลพื้นที่ทางทะเลอย่างไร ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า “ตอนนี้เราเน้นเรือผิวน้ำ ส่วนเรือดำน้ำใช้เมื่อมีความขัดแย้ง วันปกติแค่ป้องปราม วันนี้เรือดำน้ำยังไม่มา ความขัดแย้งระหว่างประเทศยังไม่แสดงตัวชัดเจน กองทัพเรือยังรับมือไหวกับการป้องกันอธิปไตย การแสดงกำลัง การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและการช่วยเหลือประชาชน เรายังปฏิบัติได้สมบูรณ์แบบ ส่วนเรือฟริเกต ซึ่งเป็นเรือผิวน้ำอยู่ในแผนการจัดซื้อ คาดว่าใช้เวลาต่อเรือ ๓ ปี จะมาเป็นเขี้ยวเล็บให้กองทัพเรือไทย และขอยืนยันจะทำหน้าที่รักษาเทิดทูนสถาบัน อธิปไตยทางทะเล รวมถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเลไม่ให้ใครเอาไปได้ และช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด”.