เลขาธิการนาโตกล่าวว่า การแสดงความเห็นของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่ปกป้องพันธมิตรนาโตหากถูกรัสเซียรุกราน ได้บ่อนทำลายความมั่นคงทั้งหมดเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ยังชี้ว่าคำกล่าวของทรัมป์จะทำให้กองทหารสหรัฐฯ และยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น หลังทรัมป์กล่าวว่า เขาได้บอกกับผู้นำชาติสมาชิกนาโตว่าเขาจะสนับสนุนรัสเซียให้โจมตีสมาชิกนาโตชาติใดก็ตามที่ไม่บรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายเงินด้านกลาโหมที่ ๒% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีขณะที่สมาชิกของนาโตให้คำมั่นที่จะปกป้องประเทศในกลุ่มที่ถูกโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกความคิดเห็นของนายทรัมป์ว่า “น่าตกใจและอันตราย” โดยเสนอว่าทรัมป์มีเจตนาที่จะยินยอมให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ทำสงครามและความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นทรัมป์ได้กล่าวในระหว่างหาเสียงที่รัฐแคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ว่า เคยพูดคุยกับผู้นำสมาชิกองค์การนาโต โดยประธานาธิบดีของประเทศขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งถามว่า หากประเทศของเขาไม่จ่ายเงินสมทบนาโตแล้วถูกรัสเซียรุกราน ทรัมป์จะปกป้องประเทศของเขาหรือไม่ ทรัมป์จึงตอบไปว่า หากไม่จ่ายเงินสมทบ ค้างชำระ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป จะไม่ปกป้อง และจะบอกให้รัสเซียทำสิ่งที่อยากทำอย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเขากำลังพูดถึงประเทศหรือผู้นำคนใด หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่การสนทนานี้เกิดขึ้นจากตัวเลขการใช้จ่ายของนาโตในปี ๒๕๖๖ พบว่าชาติสมาชิก ๑๙ จาก ๓๐ ประเทศมีการใช้จ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย ๒% ของจีดีพี ต่อปีในด้านการป้องกันประเทศ ที่รวมถึง เยอรมนี นอร์เวย์ และฝรั่งเศส แต่ประเทศส่วนใหญ่ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน รัสเซีย และเบลารุส ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้ โดยโปแลนด์ใช้จ่ายมากกว่า ๓.๙% ของจีดีพีต่อปี ขณะที่โรมาเนีย ฮังการี ฟินแลนด์ รวมถึงลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย มีค่าใช้จ่ายในการป้องกันประเทศอยู่ระหว่าง ๒.๓ ถึง ๒.๗%ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ นายสโตลเทนเบิร์กเน้นย้ำว่ากลุ่มนาโตยังคงพร้อมและสามารถปกป้องสมาชิกของตน และการโจมตีใดๆ จะต้องพบกับการตอบโต้อย่างเป็นเอกภาพและเข้มแข็ง แต่เขากล่าวว่า คำกล่าวใดๆ ที่ระบุว่า “พันธมิตรจะไม่ปกป้องซึ่งกันและกันจะบ่อนทำลายความปลอดภัยทั้งหมดของเรา” และคำพูดของนายทรัมป์ ทำให้ทหารอเมริกันและยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น และเสริมว่า “ผมคาดหวังว่าไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ จะยังคงเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นของนาโต”ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า “การที่โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าเขาตั้งใจที่จะอนุญาตให้ปูตินทำสงครามและความรุนแรงต่อไปเพื่อโจมตียูเครน และขยายความก้าวร้าวของเขาไปยังประชาชนชาวโปแลนด์ และรัฐบอลติก เป็นสิ่งที่น่าตกใจและอันตรายนายทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์นาโตมานานแล้ว และมองว่าการที่สหรัฐฯ ต้องรับประกันการป้องกันประเทศของชาติสมาชิกอีก ๓๐ ประเทศเป็นภาระทางการเงินที่มากเกินไปสำหรับสหรัฐฯรัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี ๒๕๖๕ หลังจากที่ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เขาได้แสดงความไม่พอใจต่อเงินที่สหรัฐฯ ส่งไปช่วยเหลือยูเครน ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต ทั้งนี้ ตามข้อมูลตัวเลขของทำเนียบขาวเมื่อเดือนธันวาคม สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ยูเครนมากกว่าประเทศอื่นๆ โดยมีมูลค่ารวมกว่า ๔๔,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่การรุกรานในปี ๒๕๖๕อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสได้ขัดขวางการระดมเงินช่วยเหลือครั้งใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเรียกร้องให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการย้ายถิ่นฐานเข้าสู่สหรัฐฯ บริเวณชายแดนทางภาคใต้ จากนั้นจึงปฏิเสธร่างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อมีการนำเสนอเมื่อต้นสัปดาห์นี้.ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
