Friday, 15 November 2024

ยัน ประชาชนต้องมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่ใช่โครงการแจกเงิน

“ภูมิธรรม” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ยัน ประชาชนต้องมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่ใช่โครงการแจกเงิน วอนทุกฝ่ายดูที่ความเป็นจริง ยัน หวังกระตุ้นครั้งใหญ่ ปัด ไม่ใช่หยอดน้ำข้าวต้ม วันที่ ๑๓ ก.พ. ๖๗ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะนำความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับโครงการดิจิตอลวอลเล็ตมาหารือหรือไม่ ว่า การประชุมเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ วันที่ ๑๕ ก.พ. ความชัดเจนจะชัดหรือไม่ จะเกิดขึ้นหลังการประชุมเสร็จ ส่วนตัวมองข้อเสนอของ ป.ป.ช.ว่า เป็นข้อพึงสังวร เป็นข้อห่วงใย เหมือนกับที่หลายฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างออกมาก็เท่ากัน เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นมาเราก็รับเมื่อถามว่า ป.ป.ช.อยากให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และใช้งบปกติ นายภูมิธรรม ระบุว่า สิ่งที่เห็นต่างกันคือโครงการนี้ไม่ใช่โครงการแจกเงิน ไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะต้องเอาเฉพาะผู้เปราะบางหรือไม่ แต่เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ประชาชนคนไทยทุกคนก็ต้องมีส่วนร่วมกับการกระตุ้นครั้งนี้เมื่อถามย้ำว่า โครงการกระตุ้นครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ ไม่ใช่หยอดน้ำข้าวต้มใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความต้องการของเราคือ การกระตุ้นครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดการพลิกเศรษฐกิจ แต่การยืดออกไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่จบ พรุ่งนี้ไม่จบ ปีนี้ไม่จบ ปีหน้าต่อๆ ไปก็ต้องดูว่าเป็นยาที่ใช้ได้กับสถานการณ์นั้นๆ หรือไม่ ซึ่งโครงการนี้ก็เริ่มคิดกันว่าจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้ก็ยังมีวิกฤติอยู่ อยากให้ถามตัวเองวันนี้เราซื้ออะไรบ้าง หรือซื้ออะไรน้อยลง หากซื้อน้อยเพราะเรามีกำลังซื้อที่น้อยลง เราก็ต้องดูแลจัดการตัวเองมากขึ้น ถ้าเศรษฐกิจยังซึมแบบนี้ไม่มีอะไรกระตุ้น ก็เหมือนอย่างที่ตนบอกมันจะลามไปเรื่องอื่น ตอนนี้ลามไปที่วิกฤติการเงินเริ่มก่อตัว ตนคิดว่าทำใจกว้างๆ มีการพิจารณาที่รอบคอบ ดูความเป็นจริงของประชาชน ถ้าดูให้ครบถ้วนการใช้ดุลพินิจ ตัดสินใจต่างๆ ใกล้เคียง จะใกล้เคียงกับชีวิตจริงของประชาชนมากขึ้นเมื่อถามถึงกรณี ป.ป.ช.อ้างความเห็นนักวิชาการว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวไม่ถึงขั้นวิกฤติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถือเป็นความเห็นที่แตกต่างกันของนักวิชาการหลายค่าย แค่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมา ๙ ข้อ บอกจะวิกฤติอย่างนั้นวิกฤติอย่างนี้ ก็ดูจะน่ากลัว แต่ข้อ ๑๐ ที่บอกว่ากำลังซื้อจากค่อยๆ ขยาย แต่หากดู ๙ ข้อข้างต้นก็ไม่รู้ว่าข้อ ๑๐ จะขยายขยายได้ ฉะนั้นเหล่านี้จึงเป็นความเห็นที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกันด้วย วันนี้จึงอยากให้ทุกคนมาดูที่ความเป็นจริง ที่ผ่านมาการคาดการณ์เศรษฐกิจทุกปีก็จะบอกกันว่าปีที่แล้วผิดเพราะอะไร แล้วปีนี้จะคาดการณ์ใหม่ เราเคารพความเห็นที่ทุกฝ่ายเสนอมา แต่ทุกอย่างจะไม่ใช้จินตนาการอย่างเดียว ต้องเป็นจินตนาการที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ยืนยันว่าวันนี้ฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติไม่ได้เห็นต่างกัน แต่เราเห็นเหมือนที่ประชาชนเห็นว่าคนลำบาก แต่ฝ่ายที่นั่งวิเคราะห์ตัวเลขอาจจะดูเพียงทฤษฎี หรือตัวเลขอย่างเดียว ซึ่งมันเป็นปัญหา คนที่ดูฝ่ายวิชาการมักจะดูภาพรวมใหญ่ ที่ไม่ใช่ภาพเล็ก แต่ภาพใหญ่มันต้องมาจากภาพเล็ก.