ศาลไม่ให้ประกัน “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” โกงหุ้น STARK หลังดีเอสไอคุมตัวในสภาพนอนแบ็บอยู่บน รถเข็นกึ่งเตียงกึ่งที่นั่งส่งอัยการฟ้องศาล เจ้าตัวให้การปฏิเสธ จากนั้นถูกส่งต่อเข้า เรือนจำทันที เผยศาลพิจารณาแล้ว ลักษณะการกระทำ ความผิดสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก ด้าน ๓ เหยื่อผู้เสียหายระบุยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มที่ศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ เนื้อหาจะครอบคลุมผู้เสียหายทั้ง ๔,๐๐๐ ราย ให้ได้รับการเยียวยาเท่าๆกัน ศาลนัดฟังคำสั่ง ๒๑ มีนาคมนี้ภายหลังดีเอสไอนำหมายจับศาลอาญาเข้าควบคุมตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหา โกง “หุ้น STARK” ถึงโรงพยาบาลขณะเข้าทำบอลลูนหัวใจ ล่าสุดเมื่อเที่ยงวันที่ ๑๒ ก.พ. ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานสอบสวนดีเอสไอคุมตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหาร ในคดีทุจริตหุ้นสตาร์คมาส่งพนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลอาญา ทั้งนี้นายวนรัชต์อยู่ในลักษณะป่วยอย่างเห็นได้ชัด นอนอยู่บนเตียงกึ่งรถเข็นเคลื่อนที่ มีบุรุษพยาบาลตามประกบ ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการพิเศษและโฆษก อสส. ตรวจรับตามขั้นตอน โดยจะยื่นฟ้องนายวนรัชต์ทุกข้อหา อาทิ เป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวังและความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา ๘๙/๗ จนเป็นเหตุให้เสียหายและข้อหาอื่นๆ ตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบ ป.อาญา มาตรา ๘๓, ๓๔๑,๓๔๓ (หรือฉ้อโกงประชาชน) และถูกนำตัวไปห้องเวรชี้ศาลอ่านคำฟ้อง จำเลยแถลงจะตั้งทนายความต่อสู้คดีนางณฐิยา ดวงจินดา ผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้นกู้สตาร์ค (STARK) กว่า ๑๓ ล้านบาท ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า นอกจากคดีอาญาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องไปวันนี้ ผู้เสียหายตัวจริงได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ใช้โจทก์ฟ้องแค่ ๓ คน เนื้อหาคดีจะครอบคลุมผู้เสียหายครบทุกคน ๔,๐๐๐ กว่ารายให้ได้รับการเยียวยาเท่าๆกัน เป็นการดำเนินคดีครั้งเดียวแต่จะช่วยผู้เสียหายทุกคน ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับเป็นคดีเเบบกลุ่ม (Class Action) หรือไม่ในวันที่ ๒๑ มี.ค. เรื่องนี้เป็นความหวังผู้เสียหายทุกคน เพราะถ้าศาลไม่รับเป็นคดีแบบกลุ่มทุกคนต้องยื่นฟ้องกันเองแบบแพ่งสามัญ ผู้เสียหาย ๔,๐๐๐ กว่าราย คดีจะมี ๔,๐๐๐ กว่าคดีในศาลนางณฐิยากล่าวต่อว่า ที่สำคัญคือไม่ใช่ทุกคนที่จะมีศักยภาพฟ้องด้วยตัวเองได้ เพราะบางคนมูลหนี้ไม่มากพอ จะต้องจ่ายเงินค่าวางศาลค่าทนายความจะรู้สึกว่ายอมจำนนไม่สู้ดีกว่า หรือบางคนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สะดวกที่จะไปฟ้อง บางคนอายุมาก บางคนไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายหรือเข้าถึงข้อมูลสำหรับประชาชนธรรมดาแบบเรามันยากมาก ขนาดเรารวมตัวกันมากขนาดนี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ง่ายที่จะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม แต่เราโชคดีที่รวมตัวกันได้เป็น ๑๐๐ คน โดยการช่วยเหลือของนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดี Class Action โดยที่ไม่คิดเงิน อยากให้คดีที่เราฟ้องเองที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในวันที่ ๒๑ มี.ค. ขอให้ศาลพิจารณารับเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมเท่ากัน ไม่ต้องไปแย่งฟ้องกันเอง ถ้ามีการคืนเงินเยียวยาผู้เสียหายครบ พร้อมจะเเถลงศาลให้บรรเทาโทษ ต้องการมากที่สุดคืออยากให้ผู้เสียหายทุกคนได้รับเงินคืนเพราะหลายๆคนก็เป็นผู้สูงอายุ อยากจะได้เงินคืนในช่วงอายุของเขา บางคนเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหาย หุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK อีกกลุ่มหนึ่งเผยว่า ในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์ส่งตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ มาฟ้องคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุด จากที่สังเกตอาการสันนิษฐานว่าน่าจะป่วยจริง ขณะนี้อัยการและ DSI ได้นำตัวยื่นฟ้องต่อศาล ขึ้นอยู่กับศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ ศาลอาจจะพิจารณาว่าหากนำเข้าในเรือนจำอาจจะอาการทรุดส่งผลให้ไม่สามารถให้การต่อศาลก็อาจกระทบทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาไปด้วย หากศาลพิจารณาให้รักษาตัวภายใต้การควบคุมของพนักงานหรือไม่ มองว่าศาลจะพิจารณาตามความเห็นทางการแพทย์ ต่อมานายวนรัชต์มอบให้นิติกรไปยื่นขอปล่อยชั่วคราวต่อไปศาลพิจารณาคำฟ้องอัยการโจทก์ เเล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.๔๔๑/๒๕๖๗ นายวนรัชต์ให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดีนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ ๑๐ มิ.ย. ภายหลังจำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดีทันทีอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
