สท.ปืนโหด ชักปืนยิงโจ๋ปางตาย หลังรำคาญเสียงท่อจยย. ที่ชอบมาแว้นลองเครื่องยนต์ โดยเพื่อนผู้บาดเจ็บถ่ายคลิปไว้ได้ขณะเกิดเหตุ ขณะที่ชาวบ้านเผย สท.มักมีพฤติกรรมเมาแล้วชอบกร่างยิงปืนขึ้นฟ้าอยู่หน้าปากซอยเป็นประจำ ล่าสุดผู้ก่อเหตุมอบตัว อ้างว่ารำคาญเสียงท่อรถ ก่อนยิงใส่ด้วยความเมาขาดสติ เมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น. วันที่ ๑๓ ก.พ. ๖๗ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายอาทร อุนินคำ อายุ ๓๗ ปี ตำรวจอาสา ตชต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.กุดจับ ว่า นายคำไพร บุตรสาลี หรือลำ อายุ ๕๗ ปี สท.ทต.ยางชุม มีพฤติกรรมดื่มสุราและมีอาการมึนเมาเป็นประจำ หลังจากนั้นจะชอบยิงปืนในที่สาธารณะ ล่าสุดก่อเหตุยิงนายกฤติศักดิ์ เสียงใส หรือเน็ค อายุ ๒๒ ปี ชาวบ้านสร้างแป้น ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส อยากให้หน่วยงานต้นสังกัดสอบสวนพฤติกรรม และร้องเรียนผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เหตุเกิดในพื้นที่ บ.ยางชุม ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี tt ttต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปจุดเกิดเหตุ อยู่หน้าวัดธาตุยางชุม ต.เชียงเพ็ง ริมถนนเชียงเพ็ง – คำบง โดยมี นายพงศธร แสนเย็น หรือต้น อายุ ๑๘ ปี เพื่อนรุ่นน้องผู้บาดเจ็บ และญาติผู้บาดเจ็บ นำชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่นายเน็คผู้บาดเจ็บและนายต้น ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาด้วยกัน ๒ คัน และนายคำไพร ได้ยืนอยู่จุดดังกล่าว พอทั้งสองคนขับผ่านไป ได้ชักปืนออกมายิงไล่หลังไปจำนวนหลายนัด กระสุนพุ่งเข้าหลังนายเน็ค ๒ นัด เป็นจังหวะเดียวกับที่ นายต้นได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาบันทึกวิดีโอเอาไว้ได้ นายต้น เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนายเน็คไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน หลังจากนั้นนายเน็คได้ชวนให้ออกมาลองเครื่องรถจักรยานยนต์ เพราะนายเน็คเป็นช่างซ่อมและแต่งรถจักรยานยนต์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นชายยืนอยู่ริมถนน ตอนนั้นตนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ เพื่อบันทึกคลิปขณะลองเครื่องรถ เมื่อขับผ่านชายคนนั้นไป ก็ได้ยิงเสียงปืนไล่ตามหลังมาประมาณ ๒-๓ นัด แล้วนายเน็คก็ร้องด้วยความเจ็บปวดบอกว่าถูกยิง นายเน็คจึงแข็งใจขับรถกลับบ้านตัวเอง ที่ห่างไปประมาณ ๒ กม. เมื่อมาถึงบ้านพ่อแม่และญาตินายเน็คออกมาดู และโทรเรียกรถกู้ชีพ ทต.เชียงเพ็ง มารับตัวส่ง รพ.อุดรธานี ทันที พวกตนไม่เคยรู้จักคนยิง ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน tt ttนายประสาน จันทร์เทศ อายุ ๕๘ ปี ลุงเขยนายเน็ค เล่าว่า เมื่อหลานชายมาถึงบ้าน ก็พาตัวมานอนที่แคร่ ให้หลานนอนหนุนตักยาย และพ่อแม่เขาก็พยายามเรียกชื่อตลอดเวลา ขณะรอรถกู้ชีพ เพราะไม่อยากให้เขาหลับ ตอนนั้นหลานดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด แต่เลือดออกไม่มากนัก และเห็นหัวลูกกระสุนปืนที่ทะลุตกออกมาจากเสื้อแจ็กเกตหลาน ๑ นัด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอได้ทำการผ่าตัดทันที จนรู้ว่าหลานถูกยิง ๒ นัด ส่วนอีกนัดหนึ่งกระสุนฝังใน โดยถูกยิงเข้าที่สะบักด้านขวา มีแผลที่หลังและหน้าท้อง อาการสาหัสมาก เพราะลำไส้ใหญ่ถูกยิงจนแตกและทะลุ มีแผลในช่องท้อง ตอนแรกหมอบอกอาจจะไม่รอด ญาติได้พากันไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน จนหลานมีอาการดีขึ้น ตอนนี้ทราบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มเติม ต้องทำการผ่าตัดเป็นครั้งที่สอง พ่อและแม่เขายังเฝ้าดูอาการอยู่ไม่ห่าง ด้าน นายอาทร ตำรวจอาสา เล่าว่า หลังเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ ๘ ก.พ. ตนได้มาที่บ้านของผู้บาดเจ็บ จากการสอบถามพยานก็ทำให้ทราบว่า สท.ลำ เป็นคนยิง ตนได้แจ้งไปยังหัวหน้า ตชต. ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.กุดจับ ได้เข้าไปสอบถามและเชิญตัวมาที่โรงพัก และเขาก็รับสารภาพว่ายิงจริง ซึ่งพฤติกรรมของ สท.ลำ เป็นแบบนี้มานานแล้ว เมื่อดื่มเหล้าจนเมา ก็จะออกมายิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้ชาวบ้านหวาดผวา เมื่อมีผู้บาดเจ็บสาหัสแบบนี้ ตนจึงกังวลว่า ผู้บาดเจ็บจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น มีพรรคพวกเยอะ จึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมไว้ ยิ่งทราบว่าเขาได้ประกันตัวออกมา ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านและญาติผู้บาดเจ็บกังวลใจเป็นอย่างมากtt ttด้าน พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ไปบ้าน สท.ลำ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อเชิญตัวมาโรงพักเพื่อสอบปากคำ ก็ยอมสารภาพในที่สุดว่าเป็นคนยิง โดยมีพยานในที่เกิดเหตุ ที่นั่งดื่มกินกันอยู่แถวนั้นว่า เห็น สท.ลำ ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน และมาจอดตรงจุดเกิดเหตุ สท.ลำ ให้การว่ารำคาญเสียงรถของผู้บาดเจ็บ และทำไปเพราะความเมา จำไม่ได้ว่ายิงไปกี่นัด เป็นปืนซิกซาวเออร์ ขนาด ๙ มม. มีทะเบียนถูกต้อง โดยแจ้งข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.สอบสวน สภ.กุดจับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์ ๑๕๐,๐๐๐ บาท เนื่องจากผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมหลับหนี ส่วนทางครอบครัวผู้บาดเจ็บ กังวลใจเรื่องความปลอดภัย ทางเราก็จะจัดกำลังสอดส่องดูแลความปลอดภัย รวมทั้งสอดส่องดูพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุด้วย.tt tt