Thursday, 19 December 2024

วิเคราะห์การเมือง : ปรับตัวชนดักตบะแตก

ฉากสงครามกลางเมืองฉายเป็นหนังตัวอย่างอยู่ข้างบ้านสื่อทั่วโลกตีข่าว รัฐบาลทหารเมียนมากำลังบังคับใช้กฎหมายที่อนุญาตให้กองทัพเรียกตัวพลเมืองชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง ๑๘-๒๕ ปี และผู้หญิงอายุ ๑๘-๒๗ ปี เข้ารับราชการทหารเป็นเวลาอย่างน้อย ๒ ปีเพื่อเติมกองหนุน หลังสูญเสียกำลังพลจากการสู้รบอย่างหนักในสถานการณ์ที่กองทัพของนายพลอาวุโส “มิน อ่อง หล่าย” กำลังเพลี่ยงพล้ำให้กับ แนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อต้านการรัฐประหารในปี ๒๕๖๔ โดยเกณฑ์ประชาชนคนหนุ่มสาว หลายหมื่นคนเข้าร่วมต่อกรกับรัฐบาลเผด็จการทหาร และผนึกกับพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะศึกหนักสมรภูมิโกก้างเผด็จการทหารเมียนมากำลังโดนต้อนเข้ามุมอับระทึกหนังกลางแปลงสงครามกลางเมืองข้างบ้าน กลับเข้าบ้านมาดูฉากบู๊ๆเมืองไทย ในสถานการณ์ที่ชนวน “เกมแลกเลือด” ถูกจุดติด ควันโขมง ตามฉากการตะลุมบอนระหว่าง “เด็กเฮี้ยว” กับ “คนแก่ห้าว”ประจันหน้าพร้อมเอาเป็นเอาตาย ไม่สนรุ่นลูก คราวพ่อคราวแม่สวมวิญญาณแก๊งเด็กอาชีวะ เถื่อนถ่อย ไล่กระทืบ ไล่ทำร้าย ขู่ออกสื่อ จ้องดักประทุษร้ายกัน โจ๋งครึ่มออกอากาศปฐมบทสงครามกลางเมือง จังหวะปะทะไหลเข้าง่าม “แหลมคม” ลากปมไปเกี่ยวโยงสายล่อฟ้า ลามเร็วไปถึงขั้นโรงเรียนฝึกท็อปบูตขยับตบเท้า ส่งสัญญาณเป็นนัยข่มขวัญเตือนแนวร่วมเด็กเฮี้ยวอย่าล้ำแดนต้องห้ามดุดันตามสไตล์คนถือปืน คุมรถถัง กดปุ่มกำลังรบหักมุมกับท่าทีของปัญญาชน แนวร่วมองค์กรนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัย ที่เรียกร้องให้เปิดกว้างการแสดงออกทางประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่“เดจาวู” ฝันร้าย “เดือนตุลา” ย้อนกลับมาหลอนเรื่องของเรื่อง จับอาการฮึ่มฮั่ม อารมณ์คุกรุ่นของท็อปบูตที่เหมือนได้หัวเชื้อชนวนปมเด็กเฮี้ยวล่วงล้ำแดนต้องห้ามมาเป็นเชื้อเผาหัวเสริมเหตุผลในการเติมน้ำมัน “อุ่นเครื่อง” รถถัง โชว์แสนยานุภาพ คำรามขู่พวกกล้าลองของ ในจังหวะที่กองทัพไทยกำลังโดนรุกหนัก เพลี่ยงพล้ำจากการโดนกองทัพส้ม พรรคก้าวไกลที่ไล่บี้ไล่ต้อนtt ttเปิดทางตัวพ่ออย่าง “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคก้าวไกล รีเทิร์นกลับเข้าสภา นั่งแท่นกรรมาธิการวิสามัญถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลทลายอาณาจักรปู่โสม ยึดขุมทรัพย์ “เสือนอนกิน” ปฏิบัติการ “เวนคืน” สนามกอล์ฟ ทบ. สนามกอล์ฟ ทอ. รีสอร์ตหรู ทร. สถานีโทรทัศน์ คลื่นวิทยุ เก้าอี้บอร์ดรัฐวิสาหกิจ ฯลฯยุ่มย่ามแหล่งเงินแหล่งทองของ “นายพล” ที่มาของทรัพย์สินหลักร้อยล้านตามสถานการณ์กระแสสังคมส่วนใหญ่ไหลเข้าทางกองทัพส้ม อารมณ์ผู้คนภายนอกหนุนให้พรรคก้าวไกลลุยให้สุดณ จุดที่ป้ายประกาศ “เขตทหารห้ามเข้า” เริ่มไม่เข้มขลังอาการดึงจังหวะถอยแบบที่กองทัพอากาศยอมคืน “สนามงู” กลางรันเวย์ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้รัฐบาลทำประโยชน์ เปิดพื้นที่กองบินในจังหวัดเชียงใหม่ทำถนนให้ผู้คนสัญจรท็อปบูตต้องประคองเกมสู้ บู๊กับกองทัพเด็กรุ่นใหม่ เพราะลำพังจะหวังพึ่งฝ่ายการเมืองเป็นตัวชูโรงแทนสภาพของ “บิ๊กทิน” นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ก็เน้นไปทางบันเทิงกับอีเวนต์ภาพของ “หมอลำ” หัวหน้าวงลำเพลินซะมากกว่าtt ttต่างกับยุคของรัฐบาลทหารเฒ่า ๓ ป. ที่ฝ่ายบริหารอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯและ อดีต รัฐมนตรีว่าการกลาโหม หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯและอดีต รัฐมนตรีว่าการกลาโหม จะเป็น “ตัวชน” รับแรงเสียดทานแทนกองทัพตามธรรมชาติของท็อปบูต สูตรการคุมกองทัพ มันมีศักดิ์ศรีของ “นาย” อำนาจแฝงของอดีตผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่นักการเมืองนกแลจะถูกเชิดมาคุมง่ายๆที่แน่ๆจุดนี้ น่าจะอยู่ในโฟกัสของฝ่ายเดินหมากอำนาจชั้น ๑๔ต้องรีบปรับเกมคุมเสือ ก่อนท็อปบูตตบะแตก “เอาไม่อยู่”หันซ้ายหันขวาจะพึ่ง “บิ๊กตู่” ก็อยู่นอกเหนือทางการเมืองไปแล้ว แนวโน้มก็เหลือแค่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร ที่ยังอยู่ในเกมอำนาจทางการเมืองตามท้องเรื่อง โดยเงื่อนไขเกมอำนาจ ส่อหนีไม่พ้นต้องพึ่งบริการ “พี่ใหญ่”จ่อส่งเทียบหามมานั่ง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม หรือเบิ้มกว่านั้น.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม