ผลการศึกษาใหม่ชี้ว่า ครูนับล้านคนในจีน เสี่ยงตกงานภายในช่วง ๑๐ ปีข้างหน้า เนื่องจากปัญหาอัตราการเกิดตกต่ำ ทำให้เกิดภาวะครูมากเกินความต้องการสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ ๑๓ ก.พ. ๒๕๖๗ ว่า ผลการศึกษาล่าสุดของคณะวิจัยซึ่งนำโดย ศ.เฉียว จินจง จากมหาวิทยาลัยสามัญปักกิ่ง (Beijing Normal University) ชี้ว่า ภายในปี ๒๕๗๘ จีนจะมีครูโรงเรียนประถมมากเกินความต้องการถึง ๑.๕ ล้านคน และครูโรงเรียนมัธยมต้นอีก ๓๗๐,๐๐๐ แสนคน ซึ่งครูเหล่านี้เสี่ยงที่จะตกงานอาชีพครูเคยเป็นงานที่มีความมั่นคงทางอาชีพสูงในจีน แต่ความมั่นคงที่ว่ากำลังลดลง จากปัญหาอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่ปัญหาจำนวนครูเกินความต้องการ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และความตึงเครียดในระบบประกันสังคมจำนวนเด็กเกิดใหม่ในจีนลดลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ โดยในปี ๒๕๖๖ มีทารกลืมตาดูโลกมากกว่า ๙ ล้านคนแค่เล็กน้อย ลดลงจากปีก่อนหน้านั้นมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ คนตามข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการของจีน จำนวนเด็กที่เข้าเรียนอนุบาลก็ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ ๒๐ ปี เมื่อปี ๒๕๖๔ และลดต่อเนื่องอีก ๓.๗% ในปี ๒๕๖๕ ส่วนจำนวนนักเรียนชั้นประถม ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๐ ปีเมื่อปี ๒๕๖๕ ไปอยู่ที่ ๑๐๗ ล้านคน น้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น ๔๗๘,๘๐๐ คนศ.ชู จ้าวฮุย จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การศึกษาแห่งชาติจีน กล่าวว่า จำนวนนักเรียนที่ลดลง กอปรกับภาระทางการเงิน ทำให้โรงเรียนต้องลดจำนวนครูที่มากเกินไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ผลกระทบจะมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าทางการจะมีวิธีรับมืออย่างไรในช่วงหลายปีที่จะมาถึงรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งในจีนกำลังเผชิญแรงกดดันทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากวิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพท์ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลัก ยังไม่มีทีท่าจะบรรเทาลง นอกจากนั้นยังมีความท้าทายอื่นๆ ที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังยุคโควิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖ หน่วยงานศึกษาธิการในมณฑลหูหนาน ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดสรรทรัพยากรณ์ทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นในช่วง ๕-๑๐ ปีข้างหน้า โดยอิงจากอัตราการเกิด, การขยายตัวของสังคมเมือง และจำนวนเด็กในวัยเรียนตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่ง เช่นที่มณฑลซานตง และเสฉวน ประกาศแผนให้มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยบางแห่ง ยกเลิกการสอนวิชาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในระดับปริญญาโท เพื่อลดจำนวนครูที่ผลิตออกมา หลังความนิยมพุ่งสูงในช่วงไม่กี่ปีหลังโรงเรียนในจีนมีปริมาณนักเรียนในแต่ละห้องแออัดมาตลอดหลายสิบปี โรงเรียนในเมืองอาจมีนักเรียนต่อห้องมากถึง ๕๐ คน ขณะที่ตามชนบทจะมีประมาณ ๓๐ คน ซึ่งรายงานของ ศ.เฉียว ระบุว่า หากจำนวนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จีนจะมีครูโรงเรียนประถมเกินความต้องการถึง ๑.๕ ล้านคน และครูโรงเรียนมัธยมต้นอีก ๓๗๐,๐๐๐ คน ภายในปี ๒๕๗๘ในเวลาเดียวกัน โรงเรียนสำหรับการศึกษาภาคบังคับทั่วประเทศจีนก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ และเทรนด์นี้จะดำเนินต่อไปจากปี ๒๕๖๓ จนถึงปี ๒๕๗๘ ซึ่งนอกจากเป็นเพราะความพยายามในการรวมโรงเรียนเข้าด้วยกันเพื่อรวมทรัพยากรณ์แล้ว การลดลงของจำนวนโรงเรียนยังมีแรงผลักดันจากจำนวนนักเรียนที่ลดลงด้วยนางแมกกี้ เฉิน ผู้เป็นครูในมณฑลเจ้อเจียงมานานเกือบ ๒๐ ปี ระบุว่า เทรนด์ดังกล่าวอาจทำให้โรงเรียนรัฐลดขนาดห้องเรียนลง เพื่อหลีกเลี่ยงการปลดบุคลากรณ์ แต่สถานการณ์ในโรงเรียนเอกชนอาจโหดร้ายกว่านั้น เนื่องจากพวกเขาเผชิญแรงกดดันทางการเงินมากกว่า และมีจำนวนนักเรียนต่อห้องน้อยกว่าอยู่แล้ว จึงอาจมีการเลย์ออฟพนักงานครั้งใหญ่ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : scmp
