ตั้งแต่มีโซเชียลมีเดีย เราก็ได้เห็นคลิปการทำร้ายคนเอเชียในเมืองต่างๆของสหรัฐฯอยู่เป็นประจำ สมัยก่อนตอนโน้น เมื่อฟัง เรื่องเล่าก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง แต่สมัยนี้มีคลิปซึ่งบางครั้งมาจากกล้องวงจรปิด ทำให้ต้องเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ไซเอด มาซาฮีร์ อาลี นักศึกษาชาวอินเดียจากรัฐเตลังคานา เดินบนถนนแคมป์เบลล์ เขตนอร์ทไซด์ นครชิคาโก ถูกคนอเมริกัน ๔ คนทำร้ายจนเลือดเปรอะหน้าตาและเสื้อผ้า ต้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้คน๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ซาเมียร์ คามัต นักศึกษาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู รัฐอินเดียนา ถูกทำร้ายจนตายในสถานที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ๗ วันก่อนหน้านั้น นางสาวนีล อาชารยา ชาวอินเดียอีกคนหนึ่งซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดู ก็ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตเช่นเดียวกันมกราคม ๒๐๒๔ วิเวก ไซไน นักศึกษาอินเดียวัยเบญจเพส ถูกคนอเมริกันใช้ค้อนทุบตีเกือบ ๕๐ ครั้ง จนตายในเมืองลิโธเนีย รัฐจอร์เจีย ที่ทราบว่าถูกใครตีจนตาย เพราะเมื่อเปิดกล้องวงจรปิด ก็ได้เห็นการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมนักศึกษาอินเดียที่เรียนในสถาบันชั้นสูงของสหรัฐฯขณะนี้มีประมาณ ๓ แสนคน ปัจจุบันโดนบูลลี่ โดนทำร้าย หรือโดนฆ่า ทำให้ตอนนี้ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวาที่โดนหนักกว่าคนอินเดียคือคนจีน พอรู้ว่าเป็นคนจีนหรือหน้าตาไปทางจีนก็จะโดนทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง เดือนกุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ นายหรงซิน เหลียว อายุ ๘๗ ปี ตัดสินใจย้ายจากนครซานฟรานซิสโกกลับบ้านเกิดที่จีน คุณตาชราผู้นี้อพยพมาทำมาหากินในสหรัฐฯนานแล้ว เมื่อ ๗ ปีก่อนก็ถูกคนร้ายตีจนหมดสติที่เขตเทนเดอร์ลอยน์ นครซานฟรานซิสโกเนื่องจากสังขารที่ถดถอย คุณตาเหลียวต้องใช้เครื่องพยุง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ขณะกำลังยืนรอรถประจำทางพร้อมเครื่องช่วยพยุง คุณตาเหลียวโดนคนอเมริกันเตะจนล้ม ๑ ตุลาคม ๒๐๒๓ ขณะนั่งอยู่ในรถวีลแชร์ที่หน้าร้านขายยาใกล้ถนนมาร์เกตสตรีท นครซานฟรานซิสโก คนร้ายก็วิ่งเข้ามาชกที่ศีรษะ กล้องวงจรปิดทำให้สามารถจับผู้ร้ายได้ แต่ศาลอเมริกันมักจะลงโทษคนร้ายที่ทำร้ายคนเอเชียแบบสถานเบา อย่างนายอีริค รามอส-เฮอร์นันเดซ ที่ทำร้ายคุณตาเหลียวเมื่อ ค.ศ.๒๐๒๐ ศาลลงโทษจำคุกเพียง ๗ เดือน รายอื่นๆ ก็ลงโทษจำคุกไม่กี่เดือนแล้วก็ปล่อยออกมาที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือเด็กเอเชียที่ต้องไปอยู่ในโรงเรียนประจำ โดนบูลลี่อยู่บ่อยครั้ง เล่าให้ครูฟังก็ไม่ได้ เอามาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียก็ไม่ได้ เพราะจะโดนรุมทำร้ายหนักยิ่งกว่าเก่า ต้องหวานอมขมกลืน อดทนจนเรียนหนังสือจบ แล้วจึงค่อยมาเขียนหรือเล่าเรื่องราวที่ตัวเองโดนบูลลี่ในขณะเรียนหนังสือ หลายคนที่มีประสบการณ์จริงแนะนำผู้ปกครองชาวเอเชียว่าอย่าส่งลูกหลานไปเรียนโรงเรียนประจำในประเทศตะวันตก เพราะบางครั้งเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้กับลูกหลานโดยไม่รู้ตัว เป็นการได้ไม่คุ้มเสียฝรั่งตะวันตกเคยมีความรู้สึกเด่นและเป็นเจ้าโลกมายาวนานหลายร้อยปี วันดีคืนดีประเทศที่ตัวเองเคยปกครอง (อย่างอินเดีย) และที่พวกตนเคยรุกราน (อย่างจีน) กลายมาเป็นประเทศที่เศรษฐกิจดีและผงาดขึ้นมาทัดเทียมกับพวกตน บางคนก็ทนกับสถานการณ์อย่างนี้ไม่ได้ ทันทีที่เห็นคนเอเชีย โดยเฉพาะคนจีนและอินเดียก็ปรี่เข้าไปทำร้าย ปรี่เข้าไปฆ่าหรือรุมฆ่าโดยที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนการทำร้ายคนเอเชียกลายเป็นลัทธิเอาอย่าง เป็นเรื่องสนุกสนานของวัยรุ่นอเมริกันบางกลุ่ม เรื่องนี้อันตรายมากครับ และกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อันที่จริงคนอเมริกันที่ทำร้ายคนจีนและอินเดียน่าจะคิดอีกมุมหนึ่ง ว่าประเทศของตนโชคดีที่มีคนฉลาด คนเก่ง และคนขยันเข้าไปช่วยกันพัฒนาประเทศ เงินที่คนเอเชีย ทำได้ก็ถูกนำไปเป็นภาษี มีการจ้างงาน การจับจ่ายใช้สอย ความมั่งคั่ง ก็หมุนเวียนภายในประเทศ ทำให้พวกท่านมีกินมีใช้ไปด้วย.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม