อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยกรณีพักโทษทักษิณ เป็นไปตามที่ รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม บอก “อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการพักโทษ” โดยจะปล่อยในวันถัดไปของวันครบการรับโทษ ๖ เดือน และเป็นไปตามมติคณะกรรมการฯ ผู้มีอายุ ๗๐ ปีขึ้นไป ไม่ต้องใส่กำไล EM ย้ำไม่ใช่หมายปล่อยตัว ไม่ต้องแจ้งศาล ส่วนการอายัดตัวเป็นอำนาจอัยการ ที่เรือนจำพิเศษ มีนบุรี เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๑๔ ก.พ. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ยอมรับว่ามีรายชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการพักโทษในรอบถัดไป ว่า การที่จะได้รับการปล่อยตัวพักโทษในวันใดนั้น ตนขอกล่าวตามหลักการว่า คำว่าครึ่งปี หรือ ๖ เดือน ให้เอา ๓๐ วันไปคูณ ก็ให้นักข่าวไปนับว่าครบวันไหน และวันถัดไปของวันครบการรับโทษก็คือวันปล่อยสำหรับพักโทษ”แนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์นั้นจะต้องมีการประสานกับหลายหน่วยงาน หากเรือนจำแห่งใดได้ประสานกับกรมคุมประพฤติไว้เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถปล่อยตัวในวันเสาร์-อาทิตย์ได้ แต่หากบางแห่งกรมคุมประพฤติยังไม่พร้อม ก็อาจต้องเลื่อนไปปล่อยตัวในวันปกติแทน ส่วนขั้นตอนการรายงานตัวของผู้ได้รับการพักโทษนั้น กรมคุมประพฤติจะเป็นผู้กำหนดแนวทางการปฏิบัติและเงื่อนไข รวมถึงข้อห้ามเพื่อแจ้งแก่ผู้ที่ได้รับการพักโทษให้ปฏิบัติตาม สำหรับผู้ได้รับการพักโทษที่มีอายุ ๗๐ ปีขึ้นไป ตนยืนยันว่าไม่ต้องใส่กำไล EM ซึ่งเรื่องนี้เป็นมติของคณะกรรมการฯ ที่มีมานานแล้วว่า ผู้ต้องขังสูงอายุ ๗๐ ปีขึ้นไป เจ็บป่วย หรือพิการ จะไม่ต้องใส่กำไล EM เพราะถือว่าอยู่ในเงื่อนไข และต้องมีการเก็บข้อมูลมาประเมินร่วมด้วยว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคยกระทำผิดซ้ำ”ทั้งนี้ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมาย การพักโทษนั้นไม่ต้องแจ้งการปล่อยตัวต่อศาล เนื่องจากเป็นการพักโทษ ไม่ใช่หมายปล่อยตัว และนักโทษยังอยู่ระหว่างคำพิพากษาของศาล กรมราชทัณฑ์ก็ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอยู่ แต่การพักโทษคือการที่ผู้ต้องขัง ซึ่งเคยอยู่ในเรือนจำ สามารถออกไปอยู่ที่บ้านหรือในสังคมได้ ส่วนเรื่องการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออัยการจะพิจารณาอายัดตัวนายทักษิณในความผิดตามมาตรา ๑๑๒ หลังได้รับการพักโทษนั้น เป็นอำนาจของอัยการ
อธิบดีราชทัณฑ์ ยังอุบวันพักโทษ "ทักษิณ" ย้ำ อายัดตัวเป็นอำนาจอัยการ
Related posts