ปลัด กระทรวงมหาดไทยเผย ผลลงทะเบียนครบ ๗๕ วัน มีประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า ๑.๔ แสนราย ยอดหนี้นอกระบบรวมกว่า ๙,๙๔๗ ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว ๑๓,๔๘๙ ราย มูลหนี้ลดลง ๖๙๐ ล้านบาท เหลือเวลาลงทะเบียน อีก ๑๗ วัน วันที่ ๑๓ ก.พ. ๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ ๗๕ โดยเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานผลการลงทะเบียน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๑๔๑,๙๓๓ ราย มูลหนี้รวม ๙,๙๔๗.๑๑๘ ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ๑๑๙,๐๐๕ ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ๒๒,๙๒๘ ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ ๑๑๑,๖๓๙ รายมีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๕ ลำดับแรก ดังนี้ ๑. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๑๑,๑๒๙ ราย เจ้าหนี้ ๘,๑๒๔ ราย มูลหนี้ ๘๖๕.๗๕๕ ล้านบาท ๒. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน ๕,๗๒๐ ราย เจ้าหนี้ ๕,๓๒๕ ราย มูลหนี้ ๓๘๘.๑๗๓ ล้านบาท ๓. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๒๔๑ ราย เจ้าหนี้ ๔,๑๙๒ ราย มูลหนี้ ๓๔๔.๕๖๗ ล้านบาท ๔. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน ๔,๙๒๓ ราย เจ้าหนี้ ๓,๙๖๒ ราย มูลหนี้ ๔๒๔.๑๖๒ ล้านบาท ๕. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน ๓,๘๓๑ ราย เจ้าหนี้ ๒,๗๓๖ ราย มูลหนี้ ๓๔๖.๓๐๔ ล้านบาทขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ๕ ลำดับแรก ได้แก่ ๑. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน ๒๓๒ ราย เจ้าหนี้ ๒๓๕ ราย มูลหนี้ ๑๔.๑๑๐ ล้านบาท ๒. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน ๓๓๑ ราย เจ้าหนี้ ๒๔๕ ราย มูลหนี้ ๒๓.๔๒๕ ล้านบาท ๓. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน ๓๗๓ ราย เจ้าหนี้ ๒๙๑ ราย มูลหนี้ ๑๔.๐๘๙ ล้านบาท ๔. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน ๔๕๕ ราย เจ้าหนี้ ๓๓๑ ราย มูลหนี้ ๒๐.๐๔๔ ล้านบาท และ ๕. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน ๔๖๖ ราย เจ้าหนี้ ๓๕๖ ราย มูลหนี้ ๒๔.๔๙๒ ล้านบาทนายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศพบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๒๒,๑๙๖ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๓,๔๘๙ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย ๒,๐๔๕.๙๑๒ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๑,๓๕๕.๖๓๕ ล้านบาท มูลหนี้ลดลง ๖๙๐.๒๗๗ ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ๓,๑๙๘ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๓๕๐ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๒๖๓.๑๒๐ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๓๔.๓๐๗ ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง ๒๒๘.๘๑๓ ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีไปแล้ว ๒๖๙ คดี ใน ๓๔ จังหวัด“ในส่วนของการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ทางกระทรวงมหาดไทยได้เชิญทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้เข้ามาพูดคุยเพื่อให้เกิดความยินยอมและตกลงจากทั้งสองฝ่าย ภายใต้ดอกเบี้ยที่เหมาะสมและไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจากข้อมูลการลงทะเบียนพบว่ามีลูกหนี้ลงทะเบียนโดยกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะไม่ทราบชื่อจริงของเจ้าหนี้ ไม่มีที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ จำนวนถึง ๔๕,๗๐๓ ราย ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้จัดส่งข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้กลไกในพื้นที่ดำเนินการติดต่อเสาะหาข้อมูลเจ้าหนี้เหล่านี้ เพื่อมาเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ควบคู่กับดำเนินการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชัน ThaID เพื่อให้ลูกหนี้ที่กรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน ดำเนินการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗ รวมถึงการใช้กลไก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ในการติดตามลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้ส่งข้อมูลลูกหนี้ที่แจ้งว่ามีการทวงหนี้โดยมีพฤติกรรมข่มขู่ จำนวน ๑๑,๒๔๒ ราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดดัชนีตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) ในเรื่องดังกล่าว ๓ ประการ คือ ๑) หนี้สินที่ได้รับการแก้ไขต้องครอบคลุมทั้งนอกระบบและในระบบ ๒) ลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่ลงทะเบียนจะต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยครบทั้ง ๑๐๐% และ ๓) ลูกหนี้ที่ผ่านการไกล่เกลี่ยต้องได้รับการพิจารณาสินเชื่อหรือปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือฟื้นฟูศักยภาพในการหารายได้ การประกอบอาชีพ รวมถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดผลเป็นรูปธรรมกับพี่น้องประชาชนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ“ขณะนี้เหลือเวลาอีก ๑๗ วันที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะเปิดรับลงทะเบียนถึงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นี้ ทั้งการเดินทางไปขอคำปรึกษาและลงทะเบียน ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด (ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด) ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง (ห้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ) สำนักงานเขตทั้ง ๕๐ เขตของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนการจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้จังหวัด และตลาดนัดแก้หนี้อำเภอ หรือสามารถลงทะเบียนทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
เหลือเวลาลงทะเบียน หนี้นอกระบบอีก ๑๗ วัน ยอดหนี้รวมกว่า ๙,๙๔๗ ล้าน
Related posts